โตเกียว/ย่างกุ้ง/สหประชาชาติ (รอยเตอร์/เอ็นเอชเค) - สถานทูตญี่ปุ่นประจำเมียนมาแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวอิสระชาวญี่ปุ่นที่ถูกกองกำลังความมั่นคงเมียนมาควบคุมตัวตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ถูกดำเนินคดีเมื่อวันจันทร์ ในข้อหาเผยแพร่ข่าวเท็จ ด้านจีนเรียกร้องให้ใช้ความพยายามทางการทูตอย่างจริงจังมากขึ้นในการแก้ไขสถานการณ์ในเมียนมา โดยเตือนว่าความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้สถานการณ์โกลาหลจนกลายเป็นสงครามการเมือง

สถานทูตญี่ปุ่นประจำนครย่างกุ้งของเมียนมา แจ้งว่า นายยูกิ คิตะซูมิ วัย 45 ปีผู้สื่อข่าวอิสระชาวญี่ปุ่นที่ถูกกองกำลังความมั่นคงเมียนมาควบคุมตัวตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ถูกดำเนินคดีเมื่อวานนี้ในข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอมและเจตนาทำให้ประชาชนตื่นกลัว และอาจถูกรับโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาที่มีการแก้ไข หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น เผยว่า นายคิตะซูมิยังดูปกติดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบนายคิตะซูมิในเรือนจำ แต่สถานทูตจะเดินหน้าขอให้รัฐบาลเมียนมาปล่อยตัวเขาต่อไป ก่อนหน้านี้นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเคยเรียกร้องเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 20 เมษายน

นายคิตะซูมิถูกเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงเมียนมาจับกุมและนำตัวออกจากบ้านพักในนครย่างกุ้งเมื่อวันที่ 18 เมษายนขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำแห่งหนึ่งในนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมือง ขณะนี้เขาอยู่ระหว่างเตรียมถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดี ทำให้ทางการญี่ปุ่นเกรงว่า นายคิตะซูมิอาจต้องถูกคุมขังในเรือนจำนานยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับนายคิตะซูมิ เคยเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ธุรกิจนิกเกอิ เขารายงานข่าวการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมียนมาและโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผ่านมา เขาเคยถูกกองกำลังความมั่นคงเมียนมาควบคุมตัวชั่วคราวขณะรายงานข่าวการประท้วงในนครย่างกุ้งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์

ขณะเดียวกัน นายจาง จุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น กล่าวถึง เมียนมาว่าเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร จีนสนับสนุนอย่างยิ่งที่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน และนางคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ผู้แทนพิเศษยูเอ็นเรื่องเมียนมาใช้ความพยายามทางการทูตจีน หวังว่าจะเห็นผล และไม่สนับสนุนการใช้มาตรการคว่ำบาตร เพราะควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เมียนมากลับเข้าสู่ภาวะปกติ หาทางออกทางการเมืองผ่านการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เนื่องจากประเด็นหลักในเมียนมาสืบเนื่องจากความเห็นต่างเรื่องการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน จีนกำลังประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขอให้งดเว้นการใช้ความรุนแรง เลี่ยงการบาดเจ็บล้มตาย และพยายามหาทางออกผ่านการเจรจา

เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็น ยอมรับด้วยว่า กังวลว่าเมียนมาอาจเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง เนื่องจากกองทัพเมียนมากำลังสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐกะฉิ่นและรัฐกะเหรี่ยง ขณะเดียวกันต้องรับมือกับการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมีข่าวว่าพลเรือนไปฝึกอาวุธในพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์เพราะยิ่งมีความตึงเครียด ยิ่งเกิดการเผชิญหน้า ยิ่งนำไปสู่ความรุนแรง การบาดเจ็บล้มตาย เดินทางผิดทาง อาจทำให้สถานการณ์โกลาหล ถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมือง นอกจากนี้จีนยังกังวลเรื่องผลกระทบด้านมนุษยธรรมด้วย เพราะผู้คนเดือดร้อนมากขึ้น