วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ฮึ่ม!ยึด‘มหาดไทย’คืนให้‘เพื่อไทย’คุม ‘ทักษิณ’ทุบ‘ภูมิใจไทย’ ฉะ‘มท.’ทำงานไม่เต็มที่

ฮึ่ม!ยึด‘มหาดไทย’คืนให้‘เพื่อไทย’คุม ‘ทักษิณ’ทุบ‘ภูมิใจไทย’ ฉะ‘มท.’ทำงานไม่เต็มที่

วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ภูมิใจไทย มหาดไทย ทักษิณ
  •  

ฮึ่ม!ยึด‘มหาดไทย’คืนให้‘เพื่อไทย’คุม

‘ทักษิณ’ทุบ‘ภูมิใจไทย’

ฉะ‘มท.’ทำงานไม่เต็มที่

เหลือ2ปีจะเลือกตั้งแล้ว

เชื่อภท.คุยได้ไม่ถอนตัว

‘อิ๊งค์’ตีมึนขอไปฟังพ่อก่อน

 

“ทักษิณ” เลิกเหนียม! โผล่อัด “มหาดไทย” ทำงานยังไม่เต็มที่ นโยบายเข้าไม่ถึงปชช. เหลืออีก 2 ปี ก็จะเลือกตั้งแล้ว เล็งคุยหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดึงมาคุมเอง เชื่อคุย “ภูมิใจไทย” รู้เรื่อง ไม่ถอนตัวร่วมรบ. รุกต่อดึงก.เกษตรฯ-พาณิชย์ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่พูดไปแล้วต้องทำให้ได้ ด้าน นายกฯมึนไม่รู้ “แม้ว” ขย่มภท.จ้องฮุบเก้าอี้คืน อ้างงานเยอะ ขอไปฟังก่อน ขณะที่ “ธรรมนัส”ฮึ่ม ไม่มีใครกล้าแตะ“กล้าธรรม” ลั่นก.เกษตรฯต้องเป็น“กธ.”ดูแล ด้าน รองประธานสภาฯคนที่1 นัด 2 สส.ปชน.-สื่อทัวร์สถาฯทุกจุดเสาร์นี้ จะได้รู้ปัญหา โอดของบปรับปรุงไปหมื่นล้าน ได้มาแค่ 8 พันล้าน ยันรีโนเวทรอบนี้เสร็จ ไม่ต้องทำอีกแล้ว


เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์พิเศษกับ 3 บก.เครือเนชั่น โดยนายทักษิณสวมบทบาทเป็น บก.คนที่ 4 เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะความเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลที่มักต้องคุมกระทรวงสำคัญๆไว้ในมือ ทางพรรคเพื่อไทยควรมีคนของตัวเองไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยหรือไม่

“แม้ว”ฉะมท.ทำงานไม่เต็มที่ไม่ถึงปชช.

โดยนายทักษิณตอบประเด็นนี้ว่า การนำนโยบายไปถึงประชาชน กระทรวงหลักคือกระทรวงมหาดไทย วันนี้ไม่ค่อยถึง เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยยังไม่ค่อยทำเต็มที่ เวลาเหลือ 2 ปีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่มหาดไทยต้องทำงานให้เต็มที่

เมื่อถูกถามว่านายทักษิณผ่านการเมืองมาเยอะและรู้จักพรรคเพื่อไทยดี วิเคราะห์ในฐานะบก.คนที่4รอบนี้ พรรคเพื่อไทยจะกล้ายึดหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ผมยังไม่ได้ถาม หัวหน้าพรรค ถ้าให้วิเคราะห์ก็เป็นเรื่องที่คงต้องพูดกันว่าให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง จะได้ทำนโยบายถึง เพื่อประชาชนได้สักที เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว อีก 2 ปีจะเลือกตั้งแล้ว”

แนะพท.ดึงมท.-กษ.-คมนาคม-มาดูเอง

ถามต่อว่า แล้วพรรคร่วมรัฐบาลที่มี 69 เสียง เขาจะยอมหรือไม่ เมื่อกระทรวงนั้นคือหัวใจหลักคุมอำนาจบริหารและเอาชนะทางการเมือง นายทักษิณกล่าวว่า คือมันเป็นเรื่องการทำงานเพื่อประชาชน ถ้าอยากทำงานให้ได้ผล พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจ เพื่อให้นโยบายถึงประชาชนจริงๆก็ต้องให้กระทรวงมหาดไทยอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย นี่คือหลักการ

เมื่อถามอีกว่า นอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังต้องมีกระทรวงไหนอีกที่สามารถทำให้รัฐบาลทำงานกระฉับกระเฉงและสามารถชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป นายทักษิณกล่าวว่า ก็กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม ก็เป็นหัวใจ คมนาคมก็เรื่องของรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พูดไปแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องมีเหตุผลบอกประชาชน มันเสียนิสัย เพราะมันเคยเป็นพรรคใหญ่มาก่อน

เชื่อคุย‘ภูมิใจไทย’รู้เรื่องไม่ถอนตัว

เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเอากระทรวงมหาดไทยมาได้ คิดในฐานะนักวิเคราะห์ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมือง ภูมิใจไทย เขาจะกล้าถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า คิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่อง คงไม่ถอนมั้ง เราไม่อยากให้เขาถอนอ่ะ ก็อยู่ด้วยกันมา ถามต่อว่า แต่ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจของแต่ละพรรคได้

นายกฯทำมึนขอไปฟังแม้วแนะยึดมท.คืน

ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังนายทักษิณระบุพรรคเพื่อไทยควรดึงกระทรวงมหาดไทยมาอยู่ในความดูแล โดยนายกฯย้อนถามว่า “ใครเป็นคนพูด เดี๋ยวจะต้องขอกลับไปดูก่อน เพราะว่าวันนี้ภารกิจเยอะมาก”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าแนวคิดนี้จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองหรือไม่ นายกฯย้อนถามอีกว่า ใครเป็นคนให้สัมภาษณ์นะ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า “นายทักษิณ” นายกฯจึงตอบว่า“อ๋อเหรอ เดี๋ยวขอกลับไปฟังก่อนนะ ยังไม่ได้ฟังเลย”

“ธรรมนัส”ลั่นเกษตรฯ“กธ.”ต้องดูแล

ส่วนท่าทีของ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยาและประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ระบุกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรเป็นของพรรคเพื่อไทยได้ดูแลว่า ในส่วนกระทรวงมหาดไทย ตนไม่ทราบ แต่กระทรวงเกษตรฯต้องเป็นพรรคกล้าธรรมดูแล

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเราทำเต็มที่แล้วทำไมจึงมีกระแสแบบนี้ออกมา เพราะมีช่องโหว่อะไรหรือไม่ทำให้นายทักษิณ ออกมาพูดแบบนี้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนยืนยันในส่วนของกล้าธรรม ยังเหมือนเดิม ส่วนกระทรวงอื่นตนไม่ทราบ

ฮึ่มไม่มีใครกล้าแตะ“กล้าธรรม”

ถามอีกว่า นายทักษิณย้ำกระทรวงเกษตรฯเหมาะที่จะให้พรรคเพื่อไทยได้ดู ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แล้วแต่ แต่ต้องเป็นพรรคกล้าธรรม ที่ผ่านมาช่วงที่ตนเป็นรมว.เกษตรฯ ตนทำดีที่สุด ช่วงเป็นรมช.ก็ได้ดูเรื่องที่ดินทำกินให้เกษตรกร และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตร อย่าไปกังวล เรื่องพวกนี้ ไม่มีใครมาแตะกล้าธรรมหรอก

ถามย้ำว่า มีสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาบ้างหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มี เรื่องการปรับครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ตนคงพูดไม่ได้

ลิซ่าถล่มงบมท.สร้างความเหลื่อมล้ำ

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม

โดยน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายงบฯกระทรวงมหาดไทย ในส่วนงบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด 2.65 หมื่นล้านบาทว่า เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความเหลื่อมล้ำ แสดงถึงความล้มเหลวของการกระจายอำนาจ และการพัฒนาท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมาถึงปัจจุบันมักทุ่มงบส่วนนี้ให้หัวเมืองใหญ่ก่อน ยิ่งเพิ่มช่องว่างระหว่างชนชั้น โดยเวิลด์แบงก์เปิดเผยว่าประมาณ 70% ค่าใช้จ่ายรัฐบาลถูกใช้ในพื้นที่กทม. ทำให้เกิดช่องว่างการพัฒนาของหัวเมือง และชนบทเพิ่มขึ้น และเกิน 50% ของจังหวัดในประเทศไทยพัฒนาต่ำกว่าศักยภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน และจังหวัดชายแดนใต้ หมายความว่าพื้นที่ในต่างจังหวัดส่วนมากมีศักยภาพเติบโตได้ดี แต่รัฐไม่สนับสนุน จัดสรรงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบเดิม ไร้ประสิทธิภาพในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สุดท้ายโครงการจะจบที่การสร้างถนน ทำสะพาน ติดไฟส่องสว่าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง รวมถึงเอาไว้เป็นพ็อกเก็ตมันนี่ปีละ 700 กว่าล้านบาท ติดประกระเป๋าผู้ว่าราชการจังหวัดเอาไว้จัดสรรกรณีจำเป็น

“สาเหตุทำให้เกิดการใช้งบแบบนี้ เพราะผู้มีอำนาจใช้งบคือผู้ว่าฯ ที่แต่งตั้งโดยมหาดไทย ไม่ได้ยึดโยงประชาชน ไม่เข้าใจพื้นที่ มาไม่นานก็ไป การออกแบบงบแต่ละจังหวัดก็เป็นวิธีตอกย้ำความเหลื่อมล้ำประชาชน ใช้เกณฑ์จังหวัดใหญ่ และรวย จึงจะได้งบประมาณเยอะกว่า ดังนั้น ถ้านายกฯต้องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มโอกาสประชาชน ควรเริ่มจากการจัดสรรงบประมาณก้อนนี้ก่อน” น.ส.ภคมน กล่าว

ทุ่มงบสร้างถนน-ตึกไม่สนคุณภาพชีวิต

และว่า หากดูงบกลุ่มจังหวัด เช่น กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 จ.กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานี ล้ำหน้ากว่าใคร เพราะทุ่มเงินไปสร้างถนน สร้างอาคาร มากกว่าสร้างคน

ขณะที่ พื้นที่ชายแดนใต้เป็นพื้นที่เหลื่อมล้ำลำดับต้นๆ เห็นได้จากงบกลุ่มจังหวัด 1,205 ล้านบาท ถูกใช้ก่อสร้างและฝึกอบรม แต่ไม่ได้มีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต การศึกษา ท่านไม่เจียดมาเลยถือว่าใจดำ หรือในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง จ.บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ ขาดแคลนแพทย์ แต่ไม่มีโครงการเข้าถึงสาธารณสุขเลย แต่ใช้กับทำถนนสร้างสะพาน งบภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ตั้งงบกลุ่มจังหวัด 1,278 ล้านบาท ระบุว่าสำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่พบว่า งบส่วนมากเอาไปสร้างถนน ทำสะพาน และไฟส่องสว่าง นอกจากนี้ ยังมีโครงการใช้ทำถนนจริงๆอีก 3,800 ล้านบาท ทำให้ในงบประมาณปี 2569 ในส่วนงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จะก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ถึง 5,000 ล้านบาท

ฉะรบ.จัดงบแบบทิ้งปชช.ไว้ข้างหลัง

น.ส.ภคมนกล่าวว่า สิ่งเหลานี้สะท้อนอำนาจทางการเมือง การทำภารกิจซ้ำซ้อน ขาดความพร้อมทำโครงการ วันนี้การพัฒนาที่ท่านคิดเป็น มีแต่การสร้างทุกอย่าง เหลือสร้างเดียวที่ไม่ทำคือ สร้างสรรค์ ไม่เคยสร้างสรรค์งบประมาณที่ประชาชนรอคอยอะไรเลย ตนจึงเสนอให้ใช้งบประมาณจังหวัด และกลุ่มจังหวัดอย่างสร้างสรรค์ตอบโจทย์พื้นที่มากกว่านี้ คำนึงถึงการพัฒนาระบบการศึกษา สาธารณสุข ขนส่งสาธารณะ และเครื่องจักรการเกษตร ต้องจัดสรรงบโดยคำนึงถึงการพัฒนาจังหวัด ไม่ใช่จัดสรรเป็นเค้กของกลุ่มอำนาจ และอยากเห็นงบถูกบริหารโดยท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่ขอผ่านผู้ว่าฯ ตนอยากเห็นการถ่ายโอนงบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งเชื่อมโยงประชาชนมากกว่า เพราะการจัดสรรงบแบบเดิม ปิดกั้นการกระจายอำนาจ ผู้ตกเป็นเหยื่อการใช้จ่ายแบบนี้คือประชาชน เป็นการจัดสรรงบที่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง

ไอติมชำแหละงบศธ.ต้องรีเซต6ด้าน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณด้านการศึกษาตอนหนึ่งว่า การศึกษาไทยไปต่อแบบเดิมไม่ได้ งบประมาณด้านการศึกษาของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 ปีละ 4% และกระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นมากที่สุด แต่รัฐบาลปัจจุบัน โครงสร้างงบประมาณการศึกษานั้น ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราต้องการให้เกิดความคุ้มค่า ต้องรีเซตอย่างน้อย 6 ด้าน

ด้านแรกคือ หลักสูตร ต้องไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ ปีนี้กระทรวงศึกษาธิการประกาศเดินหน้าหลักสูตรใหม่ฉบับปี 2568 แต่พอไปดูรายละเอียดไส้ในพบถูกจัดทำแบบลวกๆ เสี่ยงต่อการเสียของ

ด้านที่ 2 คือเรื่องภาระงานครู รัฐบาลต้องช่วยลดภาระงานครูที่ไม่จำเป็นออก มีเวลาเตรียมการเรียนการสอน หลายโครงการเพิ่มภาระงานครูโดยไม่จำเป็น ด้านที่ 3 คือต้องลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลต้องไปไกลกว่าการแจกทุน เนื่องจากเท่าไหร่ก็อาจไม่พอ ด้านที่ 4 คือการลงทุนในเทคโนโลยี รัฐบาลชุดนี้ลงทุนเยอะมากกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านการศึกษา สูงถึง 13,000-15,000 ล้านบาท เทียบเท่ากับการสร้างอาคาร สตง. 6-7 อาคาร ซึ่งเราก็ต้องมาตรวจสอบว่าเราไม่ได้กำลังจะสร้างแพลตฟอร์มที่อาจร้าง ไม่มีคนใช้ ซ้ำซ้อนกว่าที่มีอยู่ หรือหรูหราเกินจำเป็นเช่นกัน

ด้านที่ 5 คือการรีเซ็ตใบปริญญาให้เชื่อมกับอนาคต และไม่เป็นแค่ใบการันตี ซึ่งตนเห็นว่า อว. ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตอบโจทย์ ในการเพิ่มแรงจูงใจให้มหาวิทยาลัยนั้นปรับสาขาและคณะให้เท่าทันตลาดมากขึ้น และด้านที่ 6 คือการรีเซตบทบาทรัฐเกี่ยวกับการยกระดับแรงงาน โครงการที่เข้าข่ายคือโครงการเชฟ 1 หมู่บ้าน 1 อาหารไทย ภายใต้นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ที่ได้งบฯ 70 ล้านบาท เพื่อผลิตเชฟเข้าสู่เข้าสู่อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งที่ธุรกิจร้านอาหารกำลังซบเซา ธุรกิจร้านอาหารปิดตัวเพิ่มขึ้น 89% ในปี 2567 รัฐบาลไปวิเคราะห์และจับสัญญาณตลาดอย่างไร ถึงได้ข้อสรุปแบบนี้ ตนเห็นว่าวาระการปฏิรูปการศึกษาเป็นวาระที่เร่งด่วนและรอไม่ได้

“พิเชษฐ์”เล็งพา2สส.ปชน.ทัวร์สภาฯ

ด้านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า วันพรุ่งนี้ (31 พฤษภาคม) ตนจะนำ 2 สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ทั้งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พร้อมสื่อมวลชน เดินสำรวจอาคารรัฐสภา โดยจะเดินทุกจุดที่สงสัย เกี่ยวกับการของบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา ซึ่งการพาชมครั้งนี้จะได้รู้ว่า ปัญหาของสภาฯมีอะไรบ้าง ถ้าเขาไม่จุดประเด็น ก็ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เช่นชั้น B2 มีห้องที่บรรจุคน 1,500 คน ห้องส่วนมากยังไม่มีเครื่องเสียง เวที ทุกวันนี้ถ้าจะจัดงานสัมมนาใหญ่ ก็ต้องจ้างอีเว้นท์มาทำ หมดเงินหลายแสนบาท ถ้าเราจะบริการประชาชนให้เกิดประโยชน์จริงๆ เราต้องสร้างความพร้อมไว้ เพราะรัฐสภาเป็นของประชาชน เราก็บริการเต็มที่ เราต้องทำรัฐสภาให้เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมือง และคนที่อยากมาเรียนรู้ และเทคโนโลยีที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ แล้วคนที่เกี่ยวข้อง เขาคิดขึ้นมา ขั้นตอนต่างๆบริสุทธิ์โปร่งใสทั้งนั้น

โอดขอไปหมื่นล.ได้มาแค่8พันล.

“กว่าจะทะลุทะลวง ผ่านสำนักงบประมาณ ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) งบก็ถูกตัดไปเรื่อยๆ จริงแล้วสภาฯจำเป็นต้องของบประมาณหมื่นกว่าล้านบาท สุดท้ายได้แค่ 8 พันล้านบาท เหลืองบพัฒนานิดหน่อย นอกนั้นเป็นเงินเดือน และค่าใช้จ่ายประจำ แต่ก็ยินดี เพราะจะได้ทำให้สภาฯของเราที่รับมอบมานี้ ทั้งน้ำรั่ว น้ำซึมทั้งหลายได้ซ่อมแซม ไม่เช่นนั้นจะผุพังไปเรื่อยๆ” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า อนาคตจะมีการลดค่าใช้จ่ายลง เพราะของบไปแล้วจำนวนมาก นายพิเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้เมื่อเรารับมอบรัฐสภา มีแต่โครงสร้าง แต่รายละเอียดไม่มี เช่น ห้องครัว ชั้น B2 ต้องทำอาหาร แต่ทุกวันนี้ต้องใช้ไฟฟ้า แม้แต่ห้องอาหารข้างบนก็ต้องใช้สายไฟชั่วคราว เมื่อเรารับมอบอาคารมาแล้ว เราก็ต้องจัดการให้เข้าที่เข้าทางตามแผนแม่บท ตามแปลนเริ่มแรกของเขา ถ้าทำเสร็จก็จบ จากนี้ก็ไม่ทำอีกแล้ว ทั้งนี้ ในน้ำรั่วน้ำซึมมีประกัน ฝ่ายสถานที่เขาคุยกับผู้ก่อสร้าง ช่วงประกันจะหมดปลายปีนี้ทุกอย่าง

ถามถึงห้องสันทนาการชั้น 5 ได้ใช้ประโยชน์อะไรหรือไม่ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ตอนนี้ชั้น 5 มีห้องว่างทั้งชั้น สวยมาก แต่ไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง เป็นของสโมสรรัฐสภา ประธานสโมสรฯกำลังร่างกฎระเบียบอยู่ ถ้าเสร็จก็จะได้มีสโมสร มีที่ออกกำลังกาย สำหรับบุคลากรของรัฐสภา ตนก็จะพาไปดูด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ​‘มท.1’ปลุก‘อปท.’ กล้าใช้ดุลยพินิจตามหน้าที่-กม.เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ​‘มท.1’ปลุก‘อปท.’ กล้าใช้ดุลยพินิจตามหน้าที่-กม.เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
  • ‘อนุสรณ์’โร่แจง‘ทักษิณ’ห่างไกลครอบงำ‘อุ๊งอิ๊งค์-เพื่อไทย’ ‘อนุสรณ์’โร่แจง‘ทักษิณ’ห่างไกลครอบงำ‘อุ๊งอิ๊งค์-เพื่อไทย’
  • รอดู‘ครูใหญ่บุรีรัมย์’แก้เกม‘นายใหญ่’ ทวงคืน‘มหาดไทย’จากภูมิใจไทย รอดู‘ครูใหญ่บุรีรัมย์’แก้เกม‘นายใหญ่’ ทวงคืน‘มหาดไทย’จากภูมิใจไทย
  • ‘หมอตุลย์’ไขข้อข้องใจ แพทย์ตั้งใจรักษา‘ทักษิณ’ทำไมถูกลงโทษด้วย ‘หมอตุลย์’ไขข้อข้องใจ แพทย์ตั้งใจรักษา‘ทักษิณ’ทำไมถูกลงโทษด้วย
  • \'พิชิต\'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว\'อาปู\'ก็ไม่ตอบ 'พิชิต'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว'อาปู'ก็ไม่ตอบ
  • \'อนุทิน\'ยันทำถึงตลอด! ไม่เชื่อไปดูข่าวได้ หลัง\'ทักษิณ\'ทวงเก้าอี้มหาดไทย 'อนุทิน'ยันทำถึงตลอด! ไม่เชื่อไปดูข่าวได้ หลัง'ทักษิณ'ทวงเก้าอี้มหาดไทย
  •  

Breaking News

'เบียร์ เดอะวอยซ์'ปล่อยภาพแซ่บ สวมบิกินีสดใสทำเอาไอจีไฟลุก

‘อิ๊งค์’เปิดงาน Bangkok Pride Parade 2025 สนับสนุนสิทธิเสรีภาพ

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2568

‘ทบ. ‘โต้โพสต์‘ฮุน เซน’เคลม‘สามเหลี่ยมมรกต-ต้นสัตบรรณ-ช่องบก’ของเขมร แค่คำอ้าง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved