อนามัยโลกขอร้องชาติร่ำรวย
บริจาควัคซีนช่วยผู้ยากไร้
อีกหลายประเทศอ่วมหนัก
สหรัฐฉีดไฟเซอร์เด็ก12ปี
รัฐแคลิฟอร์เนียทยอยฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้วัยเด็กอายุ 12 ปีแล้ว หลังจากที่ปรึกษาด้านการแพทย์ประกาศรับรองวัคซีนของไฟเซอร์ฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้
ในขณะที่ ผอ.องค์การอนามัยโลกเรียกร้องประเทศร่ำรวยชะลอแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่เด็ก โดยขอให้บริจาควัคซีนเพื่อชาติที่ยากจน และยังขาดแคลนก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ว่านพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ในภาพรวมยังคงวิกฤติ ว่าดับเบิลยูเอชโอมีความเข้าใจต่อการที่รัฐบาของนานาประเทศต้องการให้เด็กและวัยรุ่นได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และมีบางประเทศดำเนินการไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะที่ยังมีอีกหลายประเทศไม่มีวัคซีนเพื่อใช้งาน “แม้แต่หยดเดียว” โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยากจนและอยู่ห่างไกล ดับเบิลยูเอชโอขอเสนอให้ประเทศที่มีวัคซีน “เหลือเฟือ” ทบทวนแผนการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กและวัยรุ่น แล้วบริจาควัคซีนบางส่วนให้แก่กลุ่มประเทศซึ่งมีฐานะทางเศรษฐกิจด้อยกว่า
ทั้งนี้ สถิติของดับเบิลยูเอชโอระบุว่า การแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บนโลก กระจายไปแล้ว 1,260 ล้านโดส แต่นพ.เทดรอสกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่สอง “รุนแรงกว่า” เมื่อเทียบกับปีแรก โดยสถานการณ์ในอินเดีย ณ เวลานี้ “น่ากังวลที่สุด” ด้วยสถิติผู้ป่วยสะสมมากกว่า 24 ล้านคน และผู้เสียชีวิตซึ่งเพิ่มมากกว่า 4,000 ราย ติดต่อกันอย่างน้อย 3 วันแล้ว ทำให้สถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวในอินเดียตอนนี้ เพิ่มเป็นมากกว่า 260,000 ราย
อเมริกาลุยฉีดให้เด็ก12ขวบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กวัยรุ่น อายุระหว่าง 12-15 ปี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มทยอยฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่ปรึกษาด้านการแพทย์ประกาศรับรองวัคซีนของไฟเซอร์ฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ หมายถึงไม่ว่าประชาชนอายุเท่าใดก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐระบุว่า เด็กที่ได้รับวัคซีนจะสามารถไปออกค่ายฤดูร้อนและเข้าเรียนในห้องเรียนได้ตามปกติ หลายประเทศฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็กวัยรุ่นอายุ 16 ปี โดยเฉพาะแคนาดา เป็นประเทศแรกที่ฉีดวัคซีนไฟเซอรให้แก่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
อังกฤษป้องกันสายพันธุ์อินเดีย
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า จะเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 ให้ประชาชนที่มีอายุเกิน 50 ปี และผู้เปราะบาง รวมทั้งเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด เพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์อินเดีย และนับแต่วันที่ 21 มิถุนายน กฎข้อห้ามต่างๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดจะถูกยกเลิกทั้งหมด
สำหรับอังกฤษฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เร็วที่สุดชาติหนึ่งของโลก ขณะนี้ประชาชนเกือบ 70% ได้วัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และอีกกว่า 36% ได้รับครบ 2 เข็ม ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และยอดเสียชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว
ไต้หวันยกระดับการเตือนภัย
ด้าน ไต้หวันยกระดับการเตือนภัยจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันนี้ ในพื้นที่กรุงไทเปและนิวไทเป ซิตี้ ซึ่งจะมีมาตรการห้ามการรวมตัวกันของประชาชนและปิดสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 180 ราย
มาตรการคุมเข้มที่ประกาศใช้นี้จะไม่ครอบคลุมการปิดสำนักงาน โรงเรียน หรือ ภัตตาคาร แต่จะสั่งให้ปิดโรงภาพยนตร์และสถานบันเทิงประเภทอื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็จะจำกัดการรวมตัวพบปะของสมาชิกในครอบครัวไม่ให้เกิน 5 คน หากพบกันภายในอาคารและไม่เกิน 10 คน หากพบกันภายนอกอาคารหรือกลางแจ้ง รัฐบาลท้องถิ่นของกรุงไทเป ได้สั่งปิดบาร์ ไนท์คลับ และสถานบันเทิงลักษณะเดียวกันนี้ไปแล้ว นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1,500 คน จากประชากรรวมประมาณ 24 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่การพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนเล็ก ๆ เมื่อไม่นานมานี้ทำให้ชาวไต้หวันรู้สึกวิตกกังวล ไต้หวันไม่เคยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบมาก่อน และประชาชนก็ใช้ชีวิตแบบเกือบจะเป็นปกติมาโดยตลอดแม้ประเทศอื่น ๆ จะเผชิญกับการระบาดอย่างรุนแรงก็ตาม
อินเดียตายใกล้แตะ4พัน/วัน
ด้าน อินเดียรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายวันในวันนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันเข้าใกล้วันละ 4,000 รายเข้าไปทุกที ในขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ปีที่ 2 ของการระบาดของโควิด-19 จะเลวร้ายมากกว่าปีแรก
ในรอบ 24 ชั่งโมงที่ผ่านมา อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 326,098 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 24.37 ล้านราย และพบผู้เสียชีวิตรายวัน 3,890 ราย แต่การที่พบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงอาจจะเป็นผลมาจากการที่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสในอัตราที่ลดลง ในขณะเดียวกัน ที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก นายเทโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ 2 นี้ มีความรุนแรงมากกว่าในปีแรก และสถานการณ์ในอินเดียน่าเป๊นห่วงอย่างยิ่ง ถ้อยแถลงของนายกีเบรเยซุส มีขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากที่ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวเตือนเรื่องการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสในเขตพื้นที่ชนบทของอินเดีย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อินเดียมีป่วยใหม่ 1.7 ล้านราย และเสียชีวิตมากกส่า 20,000 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี