เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 Australian Financial Review หนังสือพิมพ์ข่าวเศรษฐกิจของออสเตรเลีย เสนอข่าว Zoom dropped from Nasdaq in sign pandemic-era darling trade is over ระบุว่า ซูม วีดีโอ คอมมูนิเคชั่น (Zoom Video Communications) บริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์อย่าง “ซูม (Zoom)” หลุดออกจากดัชนี “แนสแด็ก 100 (Nasdaq 100)” หรือ 100 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ในการเปิดตลาดเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ
หุ้นของซูมมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานตราสารทุนหลักๆ ทุกรายการในปี 2566 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5.7 เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานอ่อนตัวลง และบรรดานักวิเคราะห์ต่างลดความคาดหวังในการเติบโตลง หลังจากที่ในปี 2563 ซึ่งโลกเผชิญสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และผู้คนถูกบังคับให้ต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ราคาหุ้นซูมเคยพุ่งสูงถึงร้อยละ 400 แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านรวมถึงกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานตามเดิม ประกอบกับยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่าง ไมโครซอฟท์ (Microsoft) พัฒนาโปรแกรม “ทีมส์ (Teams)” สำหรับใช้งานในลักษณะเดียวกันเข้ามาแข่งขัน ยอดขายของซูมก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ บริษัทใดก็ตามที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Nasdaq 100 จะช่วยเพิ่มประวัตินักลงทุนของบริษัท และเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อ - ขาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจผลักดันราคาหุ้นของบริษัทให้สูงขึ้น โดยล่าสุดมีบริษัทอีก 6 แห่งกำลังจะถูกถอดออกจาก Nasdaq 100 และอีก 7 แห่งที่เข้าร่วมโดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงประจำปีของเกณฑ์มาตรฐานที่เน้นด้านเทคโนโลยี
นักยุทธศาสตร์ของ “วอลล์สตรีท (Wall Street)” หรือตลาดหุ้นสหรัฐฯ พากันถอยห่างจากบริษัทซูมเช่นกัน โดยมีนักวิเคราะห์ประมาณร้อยละ 70 ที่สำรวจความคิดเห็นว่าหุ้นมีอันดับการถือไว้ เทียบกับร้อยละ 41 ในเดือน มิ.ย. 2563 ขณะเดียวกัน การเติบโตของรายได้คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำ เป็นเลขกลางเดียวในอีกไม่กี่ปีงบประมาณข้างหน้า และซูมไม่เพียงสูญเสียความโดดเด่นในตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนน้อยลงอีกด้วย หากย้อนมองไปในยุคโควิด-19 ระบาด โปรมแกรมซูมเคยเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นทั้งกับบริษัทห้างร้าน สถาบันการศึกษา ไปจนถึงชั้นเรียนโยคะ แต่ปัจจุบันคนจำนวนมากละทิ้งแพลตฟอร์มดังกล่าวไปแล้ว
โฆษกของซูมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของบริษัท แต่ก็มีรายงานว่า มีความพยายามปรับตัว ด้วยการเสนอชุดแอปพลิเคชันที่กว้างขึ้นสำหรับธุรกิจ เช่น ซอฟต์แวร์ศูนย์การติดต่อ และการแชทอย่างต่อเนื่องที่คล้ายกับ “สแล็ค (Slack)” ของ เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) รวมถึง “ซูมโฟน (Zoom Phone)” หนึ่งในการเดิมพันรองที่สำคัญที่สุดของบริษัท มีผู้ใช้งานที่ชำระเงินถึง 7 ล้านรายในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอที่ไม่ใช่วิดีโอเหล่านี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพการเติบโตของรายได้ที่ซบเซาได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนั้น ซูมกำลังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเพื่อจุดประกายการเติบโต บริษัทได้จัดให้มีการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นการเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ไฟว์ไนน์ (Five9) อีกครั้ง หลังจากที่ข้อตกลงเบื้องต้นมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหสรัฐที่ทั้ง 2 บริษัทเคยทำในปี 2564 จบลงด้วยความล้มเหลว โดยต่างก็เปิดเผยในภายหลังว่าพวกเขาไม่ได้ดำเนินธุรกรรม
สื่อออสเตรเลียยังรายงานอีกว่า ยังมีกรณีของ เพโลตอน อินเตอร์แอ็คทีฟ (Peloton Interactive) ผู้ให้บริการเครื่องออกกำลังกายที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต หรือ เทเลด็อก เฮลธ์ (Teladoc Health) ผู้ให้บริการปรึกษาแพทย์ทางไกล ทั้ง 2 บริษัทเคย “ขาขึ้น” ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด แต่ล่าสุดราคาหุ้นก็ร่วงลงร้อยละ 23 และร้อยละ 13 ตามลำดับ รวมถึงผู้ให้บริการในฐานะคนกลางทำข้อตกลงสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์อย่าง ด็อกคิวไซน์ (DocuSign) การเติบโตก็ชะลอตัวลง ตามรายงานเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566
ถึงกระนั้น ยังมีผู้ให้บริการสำหรับคนอยู่บ้านที่ไม่ได้รับผลกระทบจากยุคสมัยโควิด-19 ผ่านพ้นไป เช่น บริษัทสตรีมมิ่งวิดีโออย่าง โรคุ (Roku) และ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) การเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 136 และร้อยละ 60 ตามลำดับ รวมไปถึง ดอร์แดช (DoorDash) ผู้ให้บริการสั่งและส่งอาหารในสหรัฐฯ ที่กำลังถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่ม Nasdaq 100 หลังจากการเติบโตของบริษัทสูงถึงร้อยละ 108
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี