สื่อญี่ปุ่นเล่าเรื่อง‘ตลาด’พื้นที่ชีวิต-เชื่อมร้อยชุมชนไทย ทุกอย่างเงียบงันในวันโควิดระบาด

สื่อญี่ปุ่นเล่าเรื่อง‘ตลาด’พื้นที่ชีวิต-เชื่อมร้อยชุมชนไทย ทุกอย่างเงียบงันในวันโควิดระบาด

วันพุธ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564, 14.03 น.

1 ก.ย. 2564 เว็บไซต์ นสพ.Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เผยแพร่บทความ Pandemic takes flavor out of Bangkok's grocery shopping ซึ่งเขียนโดย มาร์วาอัน มาคาน-มาร์คาร์ (Marwaan Macan-Markar) ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชีย เล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตในประเทศไทย ดินแดนที่ “ตลาด” เป็นส่วนหนึ่งในความมีชีวิตชีวาของเมือง ก่อนที่บรรยากาศทุกอย่างจะเงียบสงัดลงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ดังนี้

นานมาแล้วก่อนสถานการณ์โรคระบาด ผมใช้เวลายามบ่ายอย่างสนุกสนานที่ตลาดน้ำในเขตชานเมืองของกรุงเทพฯ ที่ซึ่งผู้หญิงในชุดพื้นเมืองพายเรือเรียบๆ พาสินค้าสดใหม่ตระเวนขายตามลำคลองแคบๆ มันเป็นฉากที่งดงาม ประวัติศาสตร์ของอยุธยา อดีตเมืองหลวงเก่าของไทยที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร ที่ซึ่งตลาดน้ำเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณสากล แต่ไม่นานก็รู้ว่าปรากฎการณ์นี้เป็นเพียงการการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แทบไม่มีคนไทยมาซื้อของที่ตลาดเลย และจริงๆ มันก็เป็นความบันเทิงแบบเบาๆ ที่ถูกโฆษณาโดยโปสเตอร์ที่ติดอยู่ ณ ด้านหลังของที่นั่งคนขับแท็กซี่


โชคดีที่มีตัวเลือกที่แท้จริงและมีสีสันมากขึ้น ตลาดสดของเมืองซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว บางแห่งได้รับการแนะนำโดยผู้จัดชั้นเรียนทำอาหารไทยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องหลังนี้เมื่อผมได้ลงทะเบียนเรียน 2 ครั้ง หลังจากประสบการณ์ตลาดน้ำของผมหลายปี โดยได้ร่วมกับนักเดินทางชาวสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์และอังกฤษ เพื่อเรียนรู้สูตรอาหารไทยในเวลาเพียงครึ่งวัน

หนึ่งในนั้นอยู่ในย่านชนชั้นแรงงานของเมือง มันอยู่ใกล้กับ ถนนข้าวสาร พื้นที่ที่ถูกเรียกว่าสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวสะพายเป้ชาวต่างชาติ สำหรับมือสมัครเล่น ชั้นเรียน 2 ครั้งเริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมตลาดสดในบริเวณใกล้เคียงเพื่อซื้อผักและสมุนไพรที่จำเป็นสำหรับอาหารในแต่ละวัน สมุนไพรลึกลับที่ผมสังเกตเห็นในตลาดแห่งหนึ่งถูกระบุในที่ถัดไป ใบหยักสีเขียวของ “ผักชีซี่เลื่อย (Saw Coriander-คนไทยเรียกผักชีฝรั่ง)” เหมาะสมกับการเป็นส่วนประกอบสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง” อาหารที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย

กรุงเทพฯ เมืองหลวงปัจจุบันของไทย เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาด้วยตลาด ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจถึงการค้าขายในอดีตของเมือง ตลาดสดสามารถพบได้ในย่านที่อยู่อาศัย ย่านชนชั้นแรงงาน และชุมชนแออัด ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความเร็วที่ต่างไปจากย่านที่ลื่นไหล เช่น ย่านธุรกิจอย่างสีลม และย่านช็อปปิ้งสุดหรูอย่างสุขุมวิท นักวิชาการในประเทศไทยคาดการณ์ว่า กรุงเทพฯ มีตลาดสดถึง 389 แห่งให้บริการ

ตลาดที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคือ ตลาดราชวัตร ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาคารแนวราบแบบโบราณ ถนนที่มีตั้นไม้เรียงราย และลำคลองที่ไหลเอื่อยอย่างเงียบเชียบ เดินไปไม่ไกลจากอพาร์ตเมนท์ที่ผมพักอาศัย ตลาดแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในเวลา 04.00 น. โดยมีผู้ค้าจัดวางผลผลิตของตนไว้ภายในโพรง จากนั้นในเวลา 06.00 น. ลูกค้าผู้หิวโหยจะรวมตัวกันบริเวณทางเข้า อาหารยอดนิยมของพวกเขาก็เช่น ห่อหมก ซึ่งเป็นแกงสีแดงนึ่งในใบตอง หรือ ปลาสามรส ซึ่งเป็นปลาทอดในน้ำจิ้ม 3 แบบ ด้านนอกยังมีร้านอาหารเล็กๆ จำหน่ายอาหารคาว-หวาน เติมเต็มบรรยากาศของอาหารริมทาง

มันเป็นเครื่องยืนยันถึงเสน่ห์ของร้านและตลาดเหล่านี้ วิถีชีวิตแบบไทยๆ ที่เรียบง่ายยังคงดึงดูดลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้นของเมืองหลวง ท่ามกลางประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ทันสมัยมากขึ้นสำหรับอาหารสดและอาหารแบบสั่งกลับบ้าน ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กว่า 60 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

การระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 ได้เน้นย้ำถึงความเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องของตลาดที่อ่อนน้อมเหล่านี้ ซึ่งมีภูมิหลังของชุมชนที่พวกเขาให้บริการ แต่ยังกำหนดรูปแบบเบื้องหน้าของพวกเขาด้วย มันเป็นมากกว่าแหล่งอาหาร แต่หมายถึงที่ตั้งสำหรับการเชื่อมโยงชุมชนและการพูดคุยในละแวกใกล้เคียง บรรยากาศเริ่มเงียบลงในเดือน ก.ค. 2564 ในช่วงที่ตลาดราชวัตรต้องปิดเกือบ 1 สัปดาห์เพราะสถานการณ์โรคระบาด และยังมีตลาดอีกหลายแห่งที่ต้องปิดด้วยเหตุผลแบบเดียวกัน

ผลกระทบเกิดขึ้นทันทีเมื่อตลาดเงียบลง ความเงียบก็ปกคลุมถนนด้านนอก ทำให้พ่อค้า-แม่ค้า ต้องละทิ้งจุดที่คุ้นเคย เจ้าของร้านแห่งหนึ่งบอกกับผมว่าไม่มีวัตถุดิบในขณะที่ผมไปถามหาไก่และเม็ดมะม่วงหิมพานค์ และผู้ค้าคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าเปิดร้าน การปิดชั่วคราวนี้ได้ดูดความมีชีวิตชีวาออกไปจากย่านที่ผมพักอาศัย ความปั่นป่วนเช่นนี้คือบททดสอบความภักดีของลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นเก่าในกรุงเทพฯ พวกเขาสามารถเก็บภาพการหยิบถุงหอมแดงจากแผงหรือมัดตะไคร้จากที่อื่นเพื่อเตรียมอาหารปรุงเองที่บ้าน

การรักษาความสัมพันธ์เหล่านี้ไว้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับตลาดสดในการนำทางของวงจรการเปิดและปิดที่ไม่ปกติ ซึ่งเกิดจากการระบาดแบบกลุ่มก้อนต่างๆ ของโควิด-19 แต่การสำรวจยุคดิจิทัลอาจเป็นแนวทางในการรักษารูปแบบเก่าของตลาดด้วยสัมผัสที่ทันสมัย ชาวกรุงเทพฯ จำนวนมากหันไปหาแหล่งวัตถุดิบอาหารสดทางออนไลน์ มีการตั้งกลุ่มทางเฟซบุ๊กในบางพื้นที่เพื่อรวบรวมผู้ซื้อและผู้ขายผักและผลไม้ ธุรกิจเสมือนจริงแบบนั้นสามารถช่วยรักษาตลาดสดให้คงอยู่ได้เหมือนรสชาติที่ยั่งยืนของกรุงเทพฯ

https://asia.nikkei.com/Editor-s-Picks/Tea-Leaves/Pandemic-takes-flavor-out-of-Bangkok-s-grocery-shopping

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top