โควิดอังกฤษวันเดียวทะลุ5หมื่น
รัสเซียปิดมอสโก11วันสกัดลาม
องค์การอนามัยโลกคาดโควิดอาจคร่าชีวิตบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกราว 1.8 แสนราย ส่วนอังกฤษยังน่าเป็นห่วง ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งทะลุ 5 หมื่นรายขณะที่รัสเซีย
เตรียมล็อกดาวน์ ‘กรุงมอสโก’ เป็นเวลา 11 วัน ตั้งแต่ 28 ตุลาคมนี้ เพื่อสกัดไวรัสร้าย อีกด้านหนึ่งชาวเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียเริ่มการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ร่วมกับโรคโควิด-19 หลังภาครัฐสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์รอบล่าสุด
สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2564 มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อรวม 243,240,311 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 4,944,687 ราย
รักษาหายรวม 220,429,507 ราย
โควิดอาจคร่าบุคลากรแพทย์1.8แสนราย
นพ.ทีโดรส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แถลงว่าทั่วโลกมีบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 135 ล้านคน ซึ่งนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้ว จนถึงเดือน พ.ค.ปีนี้ ดับเบิลยูเอชโอประเมินว่า บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าทั่วโลก ประมาณ 80,000-180,000 ราย อาจเสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ขณะที่ข้อมูลจากสมาชิกดับเบิลยูเอชโอ 119 ประเทศ พบว่า สัดส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบคอร์ส ในบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า อยู่ที่เพียง 2 คนจาก 5 คนเท่านั้น ทั้งที่ผู้ปฏิบัติงานในอาชีพเหล่านี้ควรเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีน ยิ่งไปกว่านั้น หากจำแนกออกเป็นตามภูมิภาค ปรากฏว่า สถิติการฉีดวัคซีนครบ ในบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าในทวีปแอฟริกา มีสัดส่วนยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด แต่มากกว่า 80% ของบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าในกลุ่มประเทศร่ำรวย ฉีดวัคซีนครบแล้ว
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก กำหนดเป้าหมายให้ทุกประเทศบนโลก ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ครบครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 40% ภายในสิ้นปีนี้ แต่มีแนวโน้มว่า อย่างน้อย 82 ประเทศอาจไม่บรรลุเป้าหมาย เนื่องจากมีวัคซีนไม่เพียงพอ
อังกฤษติดเชื้อรายวันทะลุ5หมื่นราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 52,000 รายในวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม โดยตัวเลขเฉลี่ยรายวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 44,000 คน สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 16%
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวว่า รัฐบาลยังคงดำเนินแผนงานตามที่ประกาศออกมาเมื่อต้นปีคือการทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อเปิดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ พร้อมยกเลิกคำสั่งจำกัดต่างๆ เพื่อให้ประเทศกลับมาอยู่ในภาวะใกล้ปกติอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังแนะให้ประชาชนเร่งออกมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากกว่านี้ หลังจากรัฐบาลประกาศพร้อมฉีดวัคซีนเข็มพิเศษให้กับประชาชนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และได้รับวัคซีนครบโดสไปก่อนหน้านี้แล้ว ปัจจุบัน ชาวอังกฤษที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วในสัดส่วนเกือบ 80%
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกมาเตือนว่า อังกฤษคือหนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงที่สุดในภาคพื้นยุโรป ซึ่งเป็นภูมิภาคเดียวของโลกที่มีการปรับขึ้นของตัวเลขในสัปดาห์ที่แล้ว
รัสเซียจ่อล็อกดาวน์กรุงมอสโก11วัน
นายเซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เตรียมล็อกดาวน์เมืองหลวงของรัสเซียเป็นเวลา 11 วัน ระหว่างวันที่ 28 ต.ค.จนถึง7พ.ย.นี้ โดยมาตรการทั้งหมดไม่ต่างจากการล็อกดาวน์เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการปิดโรงเรียนทุกระดับชั้น การปิดสถานบันเทิง สถานประกอบการ “ที่ไม่จำเป็น” ร้านอาหารให้จำหน่ายเฉพาะกลับบ้าน และการต้องพร้อมแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ ขณะที่สำนักงานรัฐและสถานประกอบเการเอกชนแทบทุกแห่ง ยกเว้นสายงานที่มีความสำคัญต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานให้หยุดงานตลอดช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลก ซึ่งขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตเอง คือ “สปุตนิก วี” อย่างไรก็ตาม ชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อยกลับยังคงลังเลที่จะฉีดวัคซีน และรัฐบาลเชื่อว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยรายวันกลับมาเพิ่มขึ้น โดยสถิติในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ยืนยันผู้ติดเชื้อรายวัน 36,339 คน เป็นสถิติสูงสุดอีกครั้ง เช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่เพิ่มอีก 1,036 ราย ส่วนจำนวนผู้ที่หายป่วยมีเพิ่มขึ้น 25,895 คน
ปัจจุบัน รัสเซียมีสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศ 8,131,164 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 227,389 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอีกอย่างน้อย 812,168 คน
ออสเตรเลียเปิดเมลเบิร์น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนในเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย และเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย เข้าสู่การใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ เมื่อวันศุกร์ สิ้นสุดการล็อกดาวน์รอบล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 6 เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดรอบล่าสุดของโรคโควิด-19 และมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่การล็อกดาวน์เป็นระยะ ที่เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อสิ้นเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เท่ากับว่า เมืองเมลเบิร์นล็อกดาวน์เป็นเวลานานทั้งสิ้น 262 วัน ทำลายสถิติการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง 234 วัน และการล็อกดาวน์ระยะสั้นอีก 10 วัน ของกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา
ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐวิกตอเรียรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2,189 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 16 ราย อย่างไรก็ตาม 71% ของประชากรในพื้นที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว และจำนวนผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลลดลงเหลืออย่างน้อย 784 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี