ย่างกุ้ง (รอยเตอร์ส) - นางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนของเมียนมาที่ถูกยึดอำนาจจะฟังคำตัดสินคดีแรกจากที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาตั้งข้อหาหลายคดีในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ก่อนหน้านั้น กองทัพเมียนมาได้จับกุมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 18 คนที่รักษาผู้ป่วยที่เป็นสมาชิกขององค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารที่ถูกประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย
นางซู จี วัย 76 ปี ถูกควบคุมตัวในสถานที่ไม่เปิดเผยตั้งแต่กองทัพรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เธอจะฟังคำตัดสินในคดีแรกในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ข้อหายุยงให้ต่อต้านกองทัพ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี นักวิเคราะห์มองว่า คดีนี้เป็นหนึ่งในข้อหาที่ทางการต้องการทำให้เธอหายหน้าจากแวดวงการเมืองไปตลอดกาล และกองทัพอาจเลื่อนการอ่านคำตัดสิน ขณะที่สื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้รายงานกระบวนการพิจารณาคดีที่ศาลพิเศษ ซึ่งตั้งขึ้นในกรุงเนปิดอว์ ส่วนทนายความของเธอถูกห้ามให้ข่าว
นางซู จี ยังถูกตั้งข้อหามีวิทยุสื่อสารไม่ได้ขึ้นทะเบียน ข้อหาละเมิดมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ข้อหาละเมิดกฎหมายความลับราชการ ข้อหาทุจริต และข้อหาโกงการเลือกตั้ง ทนายความระบุว่า การที่เธอต้องขึ้นศาลเกือบทุกวันในทำการส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนเมื่อต้นเดือนนี้อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลของเธอถูกตัดสินจำคุก 75 ปี และคนสนิทคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 20 ปี
ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์เดอะโกลบอลนิวไลต์ ออฟ เมียนมา ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหารเมียนมารายงานก่อนหน้านี้ว่า กองทัพเมียนมาได้จับกุมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 18 คนที่รักษาผู้ป่วยที่เป็นสมาชิกขององค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารที่ถูกประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมาย การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างที่กองกำลังทหารเมียนมาบุกจู่โจมโบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพบผู้ป่วยทั้งหมด 48 คน ที่กำลังได้รับการรักษา ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วย 7 คนที่ติดเชื้อโควิด-19 ผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยเหล่านี้เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้าย และได้รับการรักษาแบบหลบซ่อน
อย่างไรก็ดี สื่อดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยชื่อกลุ่มก่อการร้าย แต่ระบุว่า ทหารเมียนมาได้จับกุมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 18 คน และทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ในจำนวนนี้ มีแพทย์ 4 คน พยาบาล 4 คน และผู้ช่วยพยาบาลอีก 10 คน โดยที่ทั้งหมดเคยโดนตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นจากการเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืนและปฏิเสธการทำงานในโรงพยาบาลของกองทัพเมียนมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร ทั้งนี้ ระบบสาธารณสุขของเมียนมาต้องเผชิญกับภาวะหยุดชะงักและเกือบล่มสลายนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อเหตุรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ
วันที่ 1 กุมภาพันธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี