3 ธ.ค.64 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีของเดนมาร์ก แถลงข่าวว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ครบโดสและโดสกระตุ้นเป็น “อาวุธชั้นยอด” ในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ และทำให้เดนมาร์กไม่ต้องใช้มาตรการควบคุมเข้มงวด
สถาบันเซรุ่มแห่งเดนมาร์ก (SSI) รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 5,120 ราย ในระยะ 24 ชั่วโมง ซึ่งสูงทำลายสถิตินับตั้งแต่เกิดโรคระบาดใหญ่ ซึ่งเฟรเดอริกเซนระบุว่าส่วนหนึ่งมาจากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน โดยการรับมือกับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ทำให้เดนมาร์กรู้ว่าเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการควบคุมโรค
เฟรเดอริกกล่าวย้ำความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นให้ผู้สูงอายุและบุคลากรทางการแพทย์ ระบุว่า “ฉันขอเรียกร้องให้ผู้สูงอายุ คนเสี่ยงสูง บุคลากรด่านหน้า และทุกคนที่ฉีดวัคซีนช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วและฤดูใบไม้ผลิปีนี้ไปฉีดวัคซีนโดสที่ 3”
สถาบันฯ รายงานว่าปัจจุบันร้อยละ 14.5 ของประชากรเดนมาร์ก ซึ่งคิดเป็น 849,221 คน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นแล้ว โดยเดนมาร์กเริ่มจัดการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และเรียกร้องผู้ปกครองของเด็กทั้ง 135,000 คนนำบุตรหลานมาฉีดวัคซีน
ขณะเดียวกันแมกนัส ฮิวนิเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก ประกาศว่ามีชาวเดนมาร์กติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 7 ราย และผู้ป่วยต้องสงสัยอีก 16 ราย โดยเดนมาร์กพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์นี้สองรายแรกเมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ย.) ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้
นอกจากนี้สถาบันฯ รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 14 ราย ในระยะ 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 2,909 ราย โดยเดนมาร์กมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 492,521 ราย
ที่มา xinhuathai
.-011
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี