“ฝรั่งเศส” ติดโควิดพุ่งทะลุ 2 แสนต่อวันส่งผลให้ในระยะเวลา 4 วัน ยอดป่วยสะสมเกิน 10 ล้านคน พุ่งขึ้นอันดับ 6 ของโลกขณะที่ “อินเดีย” กลับติดโควิดพุ่งวันเดียว22,775 ราย สั่งเตรียมพร้อมยารักษา หมอกังวลโอมิครอนทำระบาดรุนแรงรอบใหม่ เผยช่วงปีใหม่ ทั่วโลกยกเลิกเกือบ 4.4 พันเที่ยวบินสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประจำวันที่2 มกราคม 2565 มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อรวม 289,653,908 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 5,456,818 ราย รักษาหายรวม 254,111,837 ราย

ฝรั่งเศสป่วยพุ่งทะลุ2แสนคนต่อวัน

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 219,126 คน ทำสถิติมากกว่า 200,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศทะลุ 10 ล้านคนเสียชีวิตมากกว่า 123,800 คน

สำหรับฝรั่งเศส ถือเป็นประเทศที่ 6 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19สะสมสูงกว่า 10 ล้านคน ตามหลังสหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล สหราชอาณาจักร และรัสเซีย

ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสมีคำสั่งให้เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เพื่อรับมือกับสายพันธุ์โอมิครอน ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นไป ส่วนเมืองใหญ่อีกหลายเมือง รวมถึงกรุงปารีส หันกลับมาใช้มาตรการบังคับให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตามท้องถนน เพื่อความปลอดภัย

ลดระยะเวลากักโรคเหลือ7วัน

นายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะต้องกักโรค 7วันและจะลดลงเหลือ5วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะต้องกักโรคตัวเองเป็นเวลา 10 วัน และอาจจะลดลงเหลือ 7 วันหากมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นายเวรองระบุด้วยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ได้ง่ายมาก และไม่สามารถหยุดยั้งได้หากไม่นำมาตรการควบคุมเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง

‘มาครง’ชี้ต้องเฝ้าระวังตลอด ม.ค.

ด้านประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส กล่าวสุนทรพจน์ในวันส่งท้ายปีเก่าว่า ช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก จะต้องเฝ้าระวังกันไปตลอดเดือนมกราคม แต่ไม่พูดถึงเรื่องใช้มาตรการเข้มงวดครั้งใหม่เพื่อควบคุมการระบาด และว่าการระบาดเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในขณะนี้อาจเป็นการระบาดครั้งสุดท้าย

ยูเออีห้ามคนไม่ฉีดวัคซีนไป ตปท.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ว่ากระทรวงการต่างประเทศยูเออีออกแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.นี้ พลเมืองยูเออีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเดินทางออกไปยังต่างประเทศได้ ขณะที่ผู้ฉีดวัคซีนครบในเบื้องต้นแล้ว ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นล่วงหน้าภายในเวลาที่กำหนด จึงจะสามารถเดินทางออกไปยังต่างประเทศได้ โดยมีข้อยกเว้นให้เฉพาะผู้ที่มีเหตุผลด้านมนุษยธรรมและการแพทย์เท่านั้น

โดยปัจจุบัน ยูเออีมีสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 764,493 คน เพิ่มขึ้น 2,556 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 2,165 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย

อินเดียติดเชื้อวันเดียว22,775 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สาธารณสุขอินเดียรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 22,775 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สร้างความกังวลว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นทั้งกรุงนิวเดลี มุมไบ และโกลกาตา มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในรัฐเบงกอลตะวันตก มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,450 คนแต่ผลการสุ่มตรวจจีโนมของเชื้อโควิดในผู้ป่วยรายก่อนหน้าพบว่า มีผู้ป่วย 16 คนที่ติดเชื้อโควิดโอมิครอน ทางการท้องถิ่นโกลกาตาจึงออกประกาศเขตกักกันขนาดเล็ก17แห่งที่พบผู้ติดเชื้อและมีการเตรียมเวชภัณฑ์ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อดูแลผู้ป่วย

โควิด-19 ในอินเดียที่มีการระบาดรุนแรง คือ ระลอกที่ 2 ในปีที่แล้ว (2564) มีผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละวันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400,000 คน หลังจากนั้นก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจนอยู่ในระดับน้อยกว่า 10,000 คน แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโควิดโอไมครอน ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มีความกังวลว่า สถานการณ์โรคระบาดจะกลับมารุนแรงอีกครั้ง

ทั่วโลกยกเลิกเกือบ4.4พันเที่ยวบิน

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนร่วมกับสภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนมากถึงเกือบ 4,400 เที่ยวบินทั่วโลก เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก FlightAware ระบุว่า เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวมีเที่ยวบินมากกว่า 2,500 เที่ยวบินที่ต้องถูกยกเลิก ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนการยกเลิกที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยสายการบินต่างๆ ต้องประสบกับปัญหาทั้งการขาดแคลนนักบินและลูกเรือเนื่องจากต้องเข้ากักบริเวณเพราะติดโควิด-19 ร่วมกับสภาพอากาศที่เลวร้ายจากหิมะตกหนักในทางตอนกลางของประเทศสหรัฐ ซึ่งช่วงคนส่วนใหญ่จะต้องเดินทางกลับบ้านหลังหยุดพักผ่อนยาวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ยังคงมีการคาดการณ์หิมะตกหนักและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมจนถึงปัจจุบัน มีรายการเที่ยวบินถูกยกเลิกแล้วในสหรัฐมากกว่า 12,000 เที่ยวบิน