รัสเซียถอนกำลังจากคาซัคสถาน
อัลมาตี - รัสเซียเริ่มนำกองกำลังทหารถอนตัวออกจากคาซัคสถาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เลวร้ายที่สุดของประเทศเอเชียกลางแห่งนี้ หลังประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ท-โตกาเยฟ แห่งคาซัคสถาน ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือ CSTO เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเกิดการประท้วงที่มีสาเหตุมาจากการขึ้นราคาน้ำมัน และค่อย ๆ รุนแรงขึ้น และลามไปเมืองใหญ่ต่าง ๆ รัฐมนตรีช่วยส่าการกระทรวงกลาโหมคาซัคสถาน กล่าวกับกองกำลัง CTSO เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ส่งกำลังพลเข้ามา ช่วยให้กองกำลังทหารคาซัคสถาน และกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่สามารถดำเนินภารกิจค้นหาและจับกุมผู้ร้ายได้ในทันที คาดว่ากองกำลังต่างชาติจะถอนออกจากคาซัคสถานได้ทั้งหมดก่อน 23 มกราคม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาซัคสถานประกาศสิ้นสุดภารกิจ ‘ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้พวกเขาจะยังไม่มีการประกาศว่า อัลมาตี เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ หลังจับกุมประชาชนเกือบ 10,000 คน ที่ก่อความไม่สงบ โดยผู้ประท้วงบางคนเข้าโจมตีกองกำลังรักษาความปลอดภัย จับกุม และเผาตึกรัฐบาล รวมถึงเข้าปล้นสะดมภ์ตามร้านค้าต่าง ๆ
อุณหภูมิออสเตรเลียพุ่ง
ซิดนีย์ - สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เมืองออนสโลว์ เมืองชนบทห่างไกลของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 50.7 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ทำลายสถิติสูงสุดของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและทำสถิติเทียบเท่าอุณหภูมิสูงสุดของประเทศที่ท่าอากาศยานเมืองอูดนาดัตตาในรัฐเซาท์ออสเตรเลียเมื่อ 62 ปีก่อน หรือในปี 2503 ดร. มาร์ติน ไรซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของไคลเมต เคาน์ซิล (Climate Council) ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเทียบเท่ากับสถิติเมื่อ 62 ปีก่อนเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มภาวะโลกร้อนระยะยาวที่มีสาเหตุจากการเผาถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ เขายังคาดการณ์ว่า หากออสเตรเลียยังไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อุณหภูมิระดับสูงดังกล่าวอาจกลายเป็นเรื่องปกติในประเทศ โดยที่นครซิดนีย์และนครเมลเบิร์นอาจมีอุณหภูมิสูงถึงระดับ 50 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อนภายในปี 2573
เพลิงไหม้ท่อส่งน้ำมันเวเนซุเอลา
การากัส – เพลิงกำลังโหมไหม้ท่อส่งน้ำมันหลักของเวเนซุเอลาอย่างรุนแรงเมื่อค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ในรัฐอันโซอาเตกี ทางตะวันออกของเวเนซุเอลา จนเกิดควันสีเทาดำกลุ่มใหญ่ม้วนตัวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้านบริษัทน้ำมัน PDVSA ซึ่งเป็นของรัฐบาลเวเนซุเอลา ระบุว่า ท่อส่งน้ำมันดังกล่าวซึ่งเป็นท่อหลัก เกิดระเบิดจนเกิดเพลิงลุกไหม้ เป็นการก่อวินาศกรรม แต่ยังไม่รู้เป็นฝีมือใคร และยังไม่มีใครออกมาอ้างว่าลงมือก่อเหตุ ผู้ว่าการรัฐอันโซอาเตกิ และเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าว ยืนยันมีผู้บาดเจ็บ 3 คนในเบื้องต้น แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต คาดว่าสาเหตุของท่อส่งน้ำมันระเบิด เกิดจากความพยายามลักลอบเจาะท่อส่งน้ำมันเพื่อขโมยน้ำมัน หลังจากเวเนซุเอาลาเกิดวิกฤติขาดแคลนน้ำมันมานาน โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน หลังจากถอนการลงทุนในโรงกลั่นหลายแห่งในประเทศมานานหลายปีติดต่อกัน ทำให้เวเนซุเอลาซึ่งเคยมีความสามารถกลั่นน้ำมันได้วันละ 1.3 ล้านบาร์เรล ลดการกลั่นน้ำมันลงสู่ระดับต่ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี