วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ร้านค้าในหลายรัฐทั่วสหรัฐฯ ประสบปัญหาห่วงโซอุปทาน ขาดแคลนสินค้าอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ชั้นวางสินค้าว่างเปล่า ขณะที่ประชาชนต่างดิ้นรนเพื่อตุนสิ่งของจำเป็น เตรียมพร้อมรับมืออากาศหนาวเย็น ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ราคาสินค้าพุ่งสูงถึง 7% สูงสุดในรอบ 39 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ เผยแพร่คลิปภาพร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อทั่วสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ชั้นวางสินค้าเกือบว่างเปล่าในบางร้านช่วงปลาบสัปดาห์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ประชาชนต้องดิ้นรนต่อสู้กับปัญหาห่วงโซอุปทานที่กำลังรุมเร้าอยู่ในขณะนี้อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 และยังเป็นการตุนเสบียงเตรียมความพร้อมสำหรับสภาพอากาศหนาวจัดที่คาดว่าจะมาเยือนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยคลิปวิดีโอที่รอยเตอร์นำมาเผยแพร่ มาจากหลายเมืองในรัฐฟลอริดา, แมรีแลนด์, เพนซิลเวเนีย, วิสคอนซิน และนิวยอร์ก และทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่างเผชิญกับเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ ชั้นวางสินค้าบางส่วนในร้านค้าจำนวนมากว่างเปล่า รวมทั้งร้านขายสินค้าจำเป็น เช่น นม, ขนมปังและเนื้อ ซึ่งปกติแล้ว สินค้าไม่เคยว่างจากชั้นวาง โดยเป็นปัญหาจากห่วงโซอุปทานต่าง ๆ เช่น คอขวด หรือการกระจุกตัวกันของสินค้าอยู่ที่ท่าเรือหลายแห่งในสหรัฐฯ บวกกับความล่าช้าในการจัดส่ง กำลังสร้างความยากลำบากให้กับบรรดาร้านค้าและร้านสะดวกซื้อ ในการนำสินค้าเข้าไปเติมบนชั้นวาง นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่าร้านขายเหล้าในเวอร์จิเนีย ก็กำลังดิ้นรนในการจัดหาสินค้ามาวางบนชั้นวางสินค้าเช่นกัน
สื่อต่าง ๆ พยายามที่จะรายงานปัญหาการขาดแคลนที่เกิดขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้ให้แก่ประชาชนได้รับทราบ หนังสือพิมพ์ออนไลน์บางฉบับพาดหัวว่า “ร้านขายของชำกำลังต่อสู้เพื่อเติมสินค้าบนชั้นวางที่ว่างเปล่า” หรือ “ชั้นวางสินค้าในร้านขายของชำยังว่างเปล่าท่ามกลางปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, โอมิครอนและพายุฤดูหนาว” และ “การขาดแคลนสินค้าในร้านชำกลับมาอีกครั้ง”
โดยปัญหาสภาพอากาศไม่เป็นใจ จากอากาศหนาวเย็นจากขั้วโลกเหนือ กำลังพัดปกคลุมภาคเหนือของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ราบสูง, แถบมิดเวสต์ตอนบน (Upper Midwest) และนิวอิงแลนด์ในต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งส่งผลให้บางพื้นที่เกิดการขาดแคลนตามร้านค้าต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักงานบริการอากาศแห่งชาติ แถลงว่า พายุฤดูหนาว คาดว่าจะทำให้เกิดพายุหิมะตกหนัก และกระแสลมแรงในพื้นที่ที่ราบสูงตอนเหนือ พัดเข้าสู่หุบเขามิสซิสซิปปีตอนบนและกลาง ซึ่งพายุฤดูหนาวคาดว่าจะส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ทั้งภาคใต้ตอนกลาง, ตะวันออกเฉียงใต้ และชายฝั่งด้านตะวันออกในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในประเทศ พุ่งสูงขึ้นถึง 7% เทียบกับปีก่อนหน้า เป็นตัวเลขสูงกว่าที่รัฐบาลคาดไว้อย่างมาก เพราะรัฐบาลคาดไว้ว่าราคาสินค้าจะขึ้นแค่ 2% เท่านั้น นับเป็นการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสถิติเงินเฟ้อที่ดันราคาสินค้าพุ่งสูงสุดในรอบ 39 ปี ของสหรัฐฯ สาเหตุที่ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็เป็นเพราะมีความต้องการซื้อสินค้าที่สูง หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวในปีที่ผ่านมา สวนทางกับสินค้าที่ผลิตออกมาไม่ทันต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากปัญหาทั้งระบบห่วงโซ่อุปทานติดขัดจากเรื่องสภาพอากาศ การขนส่ง การกักตุนสินค้าของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยก่อนถึงช่วงสภาพอากาศจะหนาวเย็นลงอีกใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า จึงทำให้สินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ อาหาร และเชื้อเพลิงต้องขึ้นราคา โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ภายในบ้าน และของชำ ราคาสูงขึ้นถึง 6.5% จากปกติที่จะสูงขึ้นปีละ 1.5% เท่านั้น ส่วนราคารถยนต์เพิ่มสูงขึ้นถึง 11% ในปีที่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี