รัสเซียรับปากชะลอถล่มกรุงเคียฟ

‘ยูเครน’ไม่เชือ

แค่อุบายสับเปลี่ยนกำลังทหาร

ยังโจมตีหลายเมืองขณะเจรจา

‘ไบเดน’สะกิดหมีขาวรักษาคำพูด

เสนาธิการทหารของกองทัพยูเครนระบุการประกาศถอนทหารของกองกำลังรัสเซีย เป็นเพียงอุบายเท่านั้น หลังยังคงได้ยินเสียงยิงกระสุนดังมาจากพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและแคว้นเชอร์นีฮิฟทางตอนเหนือของยูเครนแม้รัฐบาลรัสเซียได้ให้คำมั่นว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารรอบ
กรุงเคียฟแล้วก็ตาม“ไบเดน”สะกิดหมีขาวรักษาคำพูด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ว่า เสนาธิการทหารยูเครนโพสต์เฟซบุ๊กรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการรายวันหลังจากรัสเซียประกาศว่า จะถอนทหารเพื่อมุ่งปฏิบัติการในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนเป็นหลักว่า กองทัพยูเครนเชื่อว่า การถอนทหารดังกล่าวเป็นเพียงการหมุนเวียนหน่วยทหารเพื่อหลอกกองทัพยูเครน และสร้างความเข้าใจผิดเรื่องการประจำกำลังพล เพราะในขณะที่หน่วยทหารรัสเซียยังคงเคลื่อนกำลังพลล่าถอยออกจากกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นีฮิฟ ทางเหนือของยูเครน รัสเซียยังคงระดมยิงโจมตีใกล้ดอนบาสต่อไป

สอดคล้องกับที่โฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงก่อนหน้านี้ว่า แม้รัสเซียเคลื่อนกำลังพลล่าถอยออกจากกรุงเคียฟ แต่ก็ยังคงเป็นภัยต่อเมืองหลวงของยูเครนแห่งนี้อยู่ ด้านชุมชนชาวยูเครน 2 แห่งใกล้เมืองซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนเชื่อว่า รัสเซียกำลังเสริมกำลังพลและวางทุ่นระเบิดใกล้ชุมชนของพวกเขา

ไมโคลา โปโวรอซเนียก รองนายกเทศมนตรีของกรุงเคียฟ เผยกับสถานีโทรทัศน์ของยูเครนว่า กรุงเคียฟไม่ได้ถูกรัสเซียยิงกระสุนถล่มในช่วงคืนที่ผ่านมา สถานการณ์ในกรุงเคียฟเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างสงบ แต่ยังคงได้ยินเสียงไซเรนและเสียงยิงกระสุนจากการต่อสู้ในพื้นที่รอบนอกเมืองหลวง ขณะที่นายเวียเชสลาฟ เชาส์ ผู้ว่าการแคว้นเชอร์นีฮิว ระบุว่า เขาไม่เห็นว่ารัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารดังคำมั่นที่ให้ไว้ และเขาก็ไม่เชื่อในคำพูดของรัสเซีย เนื่องจากเมืองนีชินในแคว้นเชอร์นีฮิฟยังคงถูกโจมตีทางอากาศ และแคว้นเชอร์นีฮิฟก็ถูกโจมตีตลอดคืนที่ผ่านมาเช่นกัน

ขณะเดียวกัน เซอร์เก ฮามาลี ผู้ว่าการแคว้นคาเมลนิตสกี ทางตะวันตกของยูเครน เผยว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งของแคว้นเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของเป้าหมายโจมตีหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยระบุเพียงว่า ทางการท้องถิ่นสามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ และส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อค้นหาผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยผลการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศตุรกีเมื่อวันอังคาร โดยรัสเซียประกาศจะลดกำลังและปฏิบัติการทางทหารรอบๆ กรุงเคียฟ เพื่อสร้างเงื่อนไขในการเจรจารอบต่อไป อันจะนำไปสู่เป้าหมายของการเจรจานั้นก็คือ การบรรลุข้อตกลง รัสเซียจึงเห็นควรที่จะปรับลดการปฏิบัติการทางทหารบริเวณรอบๆ กรุงเคียฟ และในเมืองเชอร์นิฮีฟ อีกทั้ง จะนำไปสู่ขั้นที่ 2 นั่นคือการพบเจรจาระหว่างประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่จะมีขึ้นหลังรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย บรรลุข้อตกลงในสนธิสัญญาสันติภาพแล้ว

นอกจากนี้ รัสเซียยังขอเรียกร้องให้ยูเครนยุติการทรมานเชลยศึกรัสเซียด้วย ด้านยูเครนพร้อมจะยอมรับสถานะประเทศที่เป็นกลางบนเงื่อนไขต้องมีการรับรองความมั่นคงปลอดภัยให้กับยูเครน ซึ่งหมายถึงว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับฝ่ายใด และไม่ยอมให้มีการตั้งฐานทัพในยูเครนด้วย แต่รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครนทั้งหมด และให้ทุกตารางนิ้วของยูเครนเกิดความสงบ เพื่อที่ผู้อพยพชาวยูเครนกว่า 3.5 ล้านคน จะได้กลับประเทศ สิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นก่อนรัสเซียกับยูเครนจะบรรลุข้อตกลงในสนธิสัญญาสันติภาพ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวถึงคำประกาศของผู้แทนรัสเซียที่นครอิสตันบูลว่า ตนจะดูว่ารัสเซียจะทำตามที่ประกาศไว้หรือไม่ หรือเพียงเป็นการซื้อเวลาเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ตนได้หารือกับผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษแล้ว ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าต้องดูว่ารัสเซียจะรักษาคำพูดหรือไม่ ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า แม้สัญญาณเริ่มแรกจากการเจรจาเมื่อวันอังคารจะออกมาเป็น “บวก” แต่ไม่ได้ดับเสียงระเบิดจากการถล่มโจมตีของรัสเซีย และจะไม่มีการเจรจายกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย จนกว่าการสู้รบจะยุติลง

อย่างไรก็ดีในระหว่างรัสเซียเจรจาสันติภาพกับยูเครนที่ตุรกีอยู่นั้น ทหารรัสเซียยังคงโจมตีเมืองไมโคลายิฟ และยังคงปิดล้อมเมืองมารีอูโปล กองทัพยูเครนระบุล่าสุดด้วยว่า ทหารรัสเซียยังคงยิงถล่มใกล้กับเมืองโดเนสทก์ ในภาคตะวันออกของยูเครนและกองทัพยูเครนเชื่อว่าทหารรัสเซียกำลังตั้งค่ายที่มั่น พร้อมกับวางกับระเบิดที่โนโวคาร์ลิฟก้าและลูฮิฟสกี2ชุมชนใกล้กับเมืองซาปอร์ริสเซีย ที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดของยูเครนและในยุโรปโดยที่เมืองไมโคลายิฟ ทหารรัสเซียยิงถล่มที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่น เสียชีวิต 12 คน

ส่วนเมืองมารีอูโปล ภาพดาวเทียมล่าสุดเมื่อวานนี้เสียหายหนักทั่วทั้งเมือง อาคารบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ชุมชนทั้งชุมชนหลายแห่งพังพินาศด้วยแรงระเบิด จากการถูกถล่ม 4 สัปดาห์ติดต่อกัน รวมถึงโรงละครมาริอูโปล ดรามา ที่ถูกถล่มทางอากาศเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ขณะมีชาวเมืองรวมถึงเด็กหลบอยู่ภายในกว่า 1,000 คน ประชาชนเข้าแถวยาวที่หน้าร้านขายของชำรอซื้อของใช้จำเป็น ส่วนเมืองเออร์ปินใกล้กรุงเคียฟ ที่ทหารยูเครนเพิ่งยึดคืนจากรัสเซียได้ สภาพบ้านเมืองย่อยยับ โครงสร้างพื้นฐานพังเสียหาย บ้านเรือนหลายหลังถูกไฟเผาวอด จากการถูกยิงถล่มและการสู้รบและพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่บนถนนหลายสาย