อัมมาน (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์แดนตรัสว่า ปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน ทำให้เห็นความจำเป็นในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรทางทหารคล้ายองค์การนาโต ขึ้นในตะวันออกกลาง หลังตะวันออกกลางได้รับผลกระทบอย่างจังจากการที่ยูเครนส่งออกธัญพืชไปยังภูมิภาคนี้ไม่ได้
สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ตรัสว่า ปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน สะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรทางการทหารที่คล้ายกับองค์การนาโต ขึ้นในตะวันออกกลาง และว่าการที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการในยูเครน ทำให้รัสเซียต้องถอนกำลังทหารรัสเซียออกจากซีเรียไปยังยูเครน ได้ก่อให้เกิดสภาพสุญญากาศความไร้เสถียรภาพขึ้นในซีเรีย เปิดโอกาสให้กลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่นิยมอิหร่าน ฉวยโอกาสเข้าเติมเต็มช่องว่างสุญญากาศดังกล่าวในบริเวณชายแดนซีเรียที่ติดกับพรมแดนของจอร์แดน นับเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่เป็นบ่อเกิดความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ในการพระราชทานสัมภาษณ์ CNBC เมื่อวันศุกร์ พระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน ตรัสว่า ปฏิบัติการรัสเซียในยูเครนและปัญหาท้าทายต่างๆ อันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา ทำให้ความสำคัญในการร่วมมือในระดับภูมิภาคของตะวันออกกลาง เพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้แต่ละประเทศในภูมิภาคนี้ สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ในยามที่เกิดปัญหาขัดแย้ง
ทั้งนี้ ตะวันออกกลางได้รับผลกระทบอย่างจังจากปฏิบัติการรัสเซียในยูเครน ที่ส่งผลให้ยูเครนไม่สามารถส่งออกธัญพืชได้ ยูเครนเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลี ข้าวโพด และน้ำมันดอกทานตะวันไปยังประเทศกำลังพัฒนาแล้ว รวมถึงทวีปในทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ทรงยอมรับว่าการร่วมมือกัน หาใช่สิ่งที่เป็นปกติสำหรับภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามจัดตั้ง “นาโตตะวันออกกลาง” ได้