19 ก.ย. 2565 สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เผยแพร่รายงาน Internet surge slows, leaving 2.7 billion people offline in 2022 ระบุว่า ปัจจุบันซึ่งเป็นปี ค.ศ. 2022 มีประชากรโลก 5.3 พันล้านคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังมีอีก 2.7 พันล้านคนที่ยังเข้าไม่ถึง ซึ่งหากไม่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้มากขึ้นและเป็นแรงผลักดันในการส่งเสริมทักษะดิจิทัล ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมต่อทุกคนได้ภายในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573)
รายงานฉบับนี้ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 ตามเวลาท้องถิ่นในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังอ้างถึงถ้อยแถลงของ โหวหลิน จ้าว (Houlin Zhao) เลขาธิการ ITU ซึ่งกล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเชื่อมต่อเมากขึ้น แต่เราจำเป็นต้องรักษาโมเมนตัมเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจากทุกที่สามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีและบริการดิจิทัล ซึ่งทำได้โดยการลงทุนในโครงข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลให้มากขึ้น การนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ และการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังเข้าสู่โลกยุคหลังโควิด
ย้อนไปในปี 2562 หรือ 1 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ปีนั้นมีประชากรโลก 3.6 พันล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกทั้งหมดเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต ต่อมาในปี 2564 พบว่า ลดลงเหลือ 3 พันล้านคน และในปี 2565 คือ 2.7 พันล้านคน ทั้งนี้ ท่ามกลางความกังวลในอัตราการเข้าถึงที่ช้าลง แต่ ITU ยังชี้ให้เห็นความท้าทาย 2 ประการในแง่ของความก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของโลก
1.การบรรลุการเชื่อมต่อที่เป็นสากล ซึ่งหมายถึงการนำมนุษย์ที่เหลืออีก 1 ใน 3 เข้าสู่โลกออนไลน์จะเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ ชุมชนที่เชื่อมต่อได้ง่ายส่วนใหญ่ในปัจจุบัยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ เช่น บรอดแบนด์บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกระตุ้นการเข้าถึงบริการดิจิทัลอย่างรวดเร็วและแพร่หลาย ในขณะที่ผู้ซึ่งเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตนั้นส่วนใหญ่อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงยาก
2.การยกระดับจากการเชื่อมต่อพื้นฐานไปสู่การเชื่อมต่อที่มีความหมาย โดยที่ผู้คนไม่เพียงเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เท่าน้้น แต่ยังสามารถใช่ได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาชีวิตของพวกเขา ซึ่งเป็นความซับซ้อนและบ่อยครั้งความท้าทายดังกล่าวถูกมองข้ามหรือประเมินต่ำไป อุปสรรคอาจรวมถึงความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่ช้า ราคาที่จำกัดของฮาร์ดแวร์และแพ็คเกจการสมัครสมาชิก ความตระหนักและทักษะด้านดิจิทัลไม่เพียงพอ รวมถึงอุปสรรคด้านภาษาและการรู้หนังสือ ไปจนถึงประเด็นอื่นๆ เช่น การเลือกปฏิบัติทางเพศหรือการขาดแหล่งพลังงานที่เชื่อมั่นได้ ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขหากต้องการให้ทุกคนเข้าถึงแหล่งข้อมูลออนไลน์อย่างเท่าเทียมกัน
โดรีน บ็อกดัน-มาร์ติน (Doreen Bogdan-Martin) ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะเป็นไปในเชิงบวก แต่ก็ยังไม่ควรมองว่าการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่างไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะยังคงดำเนินต่อไป ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตจะเป็นเรื่องยากที่สุดในการทำให้พวกเขาออนไลน์ พวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล มักเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาส และในบางกรณีก็ไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อินเตอร์เน็ตสามารถนำเสนอได้ นั่นคือเหตุผลที่เป้าหมายของเราต้องยกระดับจากการเชื่อมต่อที่เป็นสากล ไปสู่การเชื่อมต่อที่มีความหมายด้วย ซึ่งคำว่ามีความหมายนี้ หมายถึงการช่วยให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีประสบการณ์ออนไลน์ที่ปลอดภัย น่าพึงพอใจ สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม
จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 การขยายตัวและส่วนแบ่งของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ระหว่างปี 2564-2565 อย่างไรก้ตาม การเติบโตนั้นกระจายอย่างไม่เท่ากันทั่วทั้งภูมิถาค พื้นที่ที่มีการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตต่ำมีการเติบโตเร็วที่สุดในปีที่ผ่านมา ตามรูปแบบการแพร่กระจายทั่วไปสำหรับเทคโนโลยีใหม่และที่เกิดขึ้นใหม่
เมื่อดูเป็นรายภูมิภาค พบว่า ทวีปแอฟริกา ซึ่งมีอัตราการเข้าถึงอินเตอรืเน็ตน้อยที่สุดในโลก พบการขยายตัวของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบเป็นรายปี ปัจจุบันประชากรชาวแอฟริการ้อยละ 40 ใช้อินเตอร์เน็ตได้แล้ว ขระที่กลุ่มรัฐอาหรับ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตถึงร้อยละ 70 ของประชากร ด้านภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 61 ใน ปี 2564 เป็นร้อยละ 64 ในปี 2565 เมื่อเทียบกับประชากรในภูมิภาค ส่วนทวีปอเมริกา เครือรัฐเอกราช (อดีตประเทศในกลุ่มสหภาพโซเวียต) และทวีปยุโรป ต่างก็มีอัตราการเติบโตร้อยละ 3 โดยมีประชากรออนไลน์มากกว่าร้อยละ 80 ในแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ ยุโรปยังเป็นภูมิภาคที่คนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากที่สุด โดยร้อยละ 89 ของประชากรสามารถออนไลน์ได้
ทั้งนี้ สำหรับประมาณการที่ปรับปรุงแล้ว กรณีข้อมูลพบประชากรโลก 3 พันล้านคนยังเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตในปี 2564 ได้รับการแก้ไขโดยอิงจากข้อมูลใหม่และเทคนิคการสร้างแบบจำลองที่ได้รับการขัดเกลา จากประมาณการเบื้องต้นที่ 2.9 พันล้านคนที่เผยแพร่ในเดือน พ.ย. 2564 นอกจากนี้ การประมาณการเพิ่มเติมจะมีให้ในข้อเท็จจริงและตัวเลขที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2565 โดย ITU จะทำการเผยแพร่ต่อไปในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเป็นรายงานที่แสดงข้อมูลประมาณการปี 2565 สำหรับตัวชี้วัดหลัก รวมถึงรายงานที่ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เช่น การใช้อินเตอร์เน็ตแยกตามเพศ อายุ และสถานที่ ตลอดจนความครอบคลุมของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ การสมัครรับข้อมูบบรอดแบนด์โทรศัพท์มือถือ และการครอบครองโทรศัพท์มือถือ
ที่มา itu.int
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี