27 ก.ย.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ได้ออกมาขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนว่า พันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐจะไม่เข้ามาข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะกลัวหายนะนิวเคลียร์
เมดเวเดฟ วัย 57 ปี รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย โพสต์ในเทเลแกรมว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากถูกกดดันจนเลยขีดจำกัด เรื่องนี้ไม่ใช่การขู่ให้กลัว ขอให้ลองนึกภาพรัสเซียถูกบีบให้ต้องใช้อาวุธที่น่ากลัวที่สุดกับระบอบยูเครนที่ดำเนินการรุกรานขนานใหญ่ที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย
ทั้งนี้ เมดเวเดฟเชื่อว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะไม่เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้แต่ในกรณีดังกล่าว เพราะบรรดาผู้ปลุกปั่นยุยงในยุโรปและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไม่อยากตายเพราะหายนะนิวเคลียร์
นายเมดเวเดฟซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ย้ำว่า ขอเตือนไปถึงคนหูหนวกที่ฟังแต่เสียงของตัวเองว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น โดยจะทำล่วงหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประเทศอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีปูติน ประกาศระดมพลเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และสนับสนุนการลงประชามติขอรวมกับรัสเซียในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย พร้อมกับเตือนชาติตะวันตกว่า เขาไม่ได้ขู่ให้กลัวเมื่อพูดว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียมีหลักการเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ประธานาธิบดีอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หากประเทศเผชิญภัยที่มีอยู่จริง รวมถึงภัยจากอาวุธทั่วไป ปัจจุบันหัวรบนิวเคลียร์ร้อยละ 90 ของทั้งโลกอยู่ในความครอบครองรัสเซียและสหรัฐ
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี