‘ยูกันดา’ล็อกดาวน์2เมืองเป็นเวลา3สัปดาห์ สกัด‘อีโบลา’ระบาด
16 ตุลาคม 2565 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ เสนอข่าว Ebola in Uganda: Three-week lockdown announced for two districts ระบุว่า ทางการยูกันดาประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ใน 2 เมืองคือ คาสซานดา (Kassanda) กับ มูเบนเด (Mubende) เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสอีโบลา โดยคำสั่งดังกล่าวรวมถึงการปิดศาสนสถาน สถานบันเทิงทุกประเภท และการห้ามออกจากเคหสถานในยามวิกาล หรือเคอร์ฟิว
โยเวรี มูเซเวนี (Yoweri Museveni) ประธานาธิบดียูกันดา ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางจากเดิมที่เคยกล่าวว่ามาตรการล็อกดาวน์นั้นไม่จำเป็น โดยรายงานล่าสุด ยูกันดามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลาแล้ว 19 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 58 คน อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่าสถิติที่ทางการบันทึกไว้ โดยการระบาดระลอกล่าสุดของไวรัสอีโบลาในยูกันดา เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. 2565 ในเมืองมูเบนเด ห่างจากกรุงคัมปาลา เมืองหลวงของยูกันดา ประมาณ 80 กิโลเมตร และเมืองดังกล่าวยังคงเป็นศูนย์กลางการระบาดระลอกนี้
ก่อนหน้านี้ มูเซเวนี มองว่า อีโบลาไม่ใช่ไวรัสที่แพร่เชื้อได้ทางอากาศ (Airborne) จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเดียวกับที่ใช้รับมือไวรัสโควิด-19 กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2565 ตามเวลาท้องถิ่นของยูกันดา จึงได้ออกประกาศห้ามคนเข้า-ออกจาก 2 เมืองดังกล่าวเป็นเวลา 21 วัน เว้นแต่รถบรรทุกสินค้าเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ผู้นำยูกันดา กล่าวผ่านรายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ว่านี่เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อควบคุมโรค พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือกับทางการ เพื่อยุติการระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุด
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ยังมีการประกาศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อแต่ไม่ยอมกักตัว และห้ามแพทย์พื้นบ้านเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการรักษาโรค เนื่องจากสาเหตุของการระบาดครั้งก่อนหน้านั้นพบความเชื่อมโยงกับแพทย์พื้นบ้าน สำหรับผู้ติดเชื้อรายแรกในการระบาดระลอกล่าสุด เป็นชายวัย 24 ปี ในเมืองมูเบนเด และต่อมาสมาชิกในครอบครัวของเขารวม 6 คน ก็เสียชีวิตด้วยเช่นกัน
ในเดือน ต.ค. 2565 มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลา 1 ราย ในกรุงคัมปาลา แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชี้แจงว่า ผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวเดินทางมาจากเมืองมูเบนเด ดังนั้นสำหรับเมืองหลวงยูกันดาจึงยังไม่นับว่าพบผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ การระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซูดาน ซึ่งยังไม่มีวัคซีนที่ใช้กับสายพันธุ์นี้โดยเฉพาะ ในขณะที่ไวรัสอีโบลาสายพันธุ์ซาอีร์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปราว 11,000 ราย ในการระบาดในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ช่วงปี 2556-2559 ปัจจุบันมีวัคซีนให้ใช้แล้ว
อีโบลาเป็นไวรัสที่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อโดยตรงหรือจากวัสดุที่ปนเปื้อน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการอาเจียน ท้องร่วง บางรายมีอาการเลือดออกภายในหรือภายนอกร่างกาย ระยะฟักตัวของโรคอยู่ระหว่าง 2 วัน-3 สัปดาห์ และไวรัสยังเชื่อมโยงกับอาการเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น มาลาเรียหรือไทฟอยด์
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี