เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 สถานีโทรทัศน์ News18 ของอินเดีย เสนอข่าว Myanmar Junta Frees British, Australian and Japanese Prisoners in Amnesty Deal ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ปล่อยตัว วิคกี โบว์แมน (Vicky Bowman) อดีตเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา ฌอน เทอร์เนล (Sean Turnell) ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจชาวออสเตรเลีย และ โทรุ คุโบตะ (Toru Kubota) ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกประกาศนิรโทษกรรมนักโทษเกือบ 6,000 คน โดยทั้ง 3 เดินทางจากเมียนมาเข้าสู่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา
โบว์แมน ซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบท้องถิ่นของเมียนมา ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ระหว่างถูกเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษพาตัวไปยังเที่ยวบินต่อเครื่อง ทั้งนี้ โบว์แมนและ Htein Lin สามีชาวเมียนมา ถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ในข้อหาไม่แจ้งเปลี่ยนแปลงสถานที่พักอาศัยตามกฎหมายรับรองการจดทะเบียนของคนต่างด้าว อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว AFP ที่เดินทางมาบนเที่ยวบินเดียวกัน รายงานว่า ไม่พบ Htein Lin เดินทางมากับเธอด้วย
เทอร์เนล ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลอองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) เขาถูกควบคุมตัวหลังจากกองทัพทำรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 และถูกตัดสินจำคุก 3 ปีพร้อมกับอองซานซูจี ในความผิดฐานละเมิดกฎหมายรักษาความลับของทางการ ซึ่ง แอนโธนี อัลบานิส (Anthony Albanese) นายรกัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ตนเพิ่งได้พูดคุยกับ เทอร์เนล หลังได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 พบว่า เขายังมีสภาพจิตใจที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์
ขณะที่ คุโบตะ ซึ่งเดินทางถึงกรุงโตเกียวในเช้าวันที่ 18 พ.ย. 2565 กล่าวกับสื่อมวลชนที่สนามบินฮาเนดะ ว่า ตนขอขอบคุณผู้สนับสนุนในญี่ปุ่นทั้งสื่อมวลชนและรัฐบาลที่พยายามแก้ไขสถานการณ์จนได้รับการปล่อยตัว หลังจากที่ติดคุกอยู่ 3 เดือนครึ่ง เขาถูกควบคุมตัวพร้อมกับชาววเมียนมาอีก 2 คน ใกล้กับจุดที่มีการชุมนุมประท้วงต่อค้านรัฐบาลทหารในเมืองย่างกุ้ง เมื่อเดือน ก.ค. 2564
คุโบตะ เป็น 1 ใน 5 สื่อมวลชนต่างชาติที่ถูกจับกุมโดยรัฐบาลทหารเมียนมานับตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร 2564 ต่อจาก นาธาน หม่อง (Nathan Maung) และ แดนนี เฟนสเตอร์ (Danny Fenster) ชาวอเมริกัน โรเบิร์ต โบซิเอกา (Robert Bociaga) ชาวโปแลนด์ และ ยูกิ คิตาซุมิ (Yuki Kitazumi) ชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวและถูกผลักดันออกจากเมียนมาแล้ว ทั้งนี้ ตามรายงานของยูเนสโก (UNESCO) มีผู้สื่อข่าวถูกจับกุมในเมียนมาตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 2564 อย่างน้อย 170 คน ในจำนวนนี้ยังถูกคุมขังอยู่เกือบ 70 คน
Kyaw Htay Oo ชาวเมียนมาที่เป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ตนมีความสุขมาก แต่ยังไมได้คิดว่าจะทำอะไรเมื่อกลับถึงบ้าน และสิ่งที่รู้คือเมียนมายังไม่มีเสรีภาพ ทั้งนี้ จำนวนผู้ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดอยู่ที่ 5,774 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 600 คน และมีคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลอองซานซูจี โดยเป็นอดีตรัฐมนตรี 3 คน รวมถึงคนสนิททางการเมืองอย่าง Thein Oo ทนายความ Kyaw Hoe และ Myo Nyunt โฆษกพรรค NLD
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่เมืองย่างกุ้งของเมียนมา บริเวณหน้าเรือนจำในช่วงเช้าของวันที่ 17 พ.ย. 2565 เพื่อรอดูว่าจะมีคนที่ตนรู้จักถูกปล่อยตัวหรือไม่ โดยหญิงรายหนึ่งเล่าว่า สามีของเธอถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ข้อหายุยงปลุกปั่นให้ต่อต้านรัฐบาลทหาร ซึ่งตนภูมิใจที่เขาเข้าร่วมการประท้วงตั้งแต่เริ่มมีการรัฐประหาร ด้าน เดวิด แมธีสัน (David Mathieson) นักวิเคราะห์อิสระ กล่าวว่า การปล่อยตัวอาจารย์เทอร์เนล เป็นข่าวที่น่าประหลาดใจ หลังจากที่เขาถูกควบคุมตัวโดยรัฐบาลทหาร แต่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขาจะต้องยินดีแน่นอน
ถึงกระนั้น แมธีสัน ก็ยังย้ำว่า รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปฏิรูป และการนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ไม่ได้ช่วยให้ความเลวร้ายที่รัฐบาลทหารก่อไว้ตั้งแต่เริ่มทำรัฐประหารสมควรได้รับการอภัย เช่นเดียวกับ แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ความเห็นระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมเอเปคที่ประเทศไทยว่า ตนยินดีกับผู้ที่ถูกปล่อยตัว แต่ก็ยังมองไม่เห็นวี่แววว่ารัฐบาลทหารเมียนมาจะเปิดกว้าง มันเป็นจุดสว่างวาบจุดหนึ่งในช่วงเวลาที่มืดมิดอย่างไม่น่าเชื่อ
โฆษกประจำภูมิภาคขององค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) กล่าวว่า ผู้คนนับพันถูกคุมขังตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเมียนมา คนเหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่สมควรถูกจำคุกตั้งแต่แรก ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ในเมียนมา ระบุว่า มีพลเรือน 2,300 ราย ถูกสังหารในระหว่างการปราบปรามผู้ต่อต้านการรัฐประหาร แต่ทางรัฐบาลทหารตอบโต้กลับว่า เป็นเพราะกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐประหารทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเกือบ 3,900 ราย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี