โคลัมโบ (รอยเตอร์ส) - ศรีลังกาสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศในวันศุกร์ เนื่องจากเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศในระดับสูง ในขณะที่พายุไซโคลนมันดุซ (Mandous) ได้พัดถล่มชายฝั่งของศรีลังกา จนทำให้มีฝนตกหนักและลมแรง โดยคาดว่าไซโคลนลูกนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียในช่วงเที่ยงคืนวันนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สภาพท้องฟ้าในกรุงโคลัมโบและอีกหลายเมืองของบังกลาเทศมีเมฆมืดครึ้มและฝนตกประปราย ในขณะเดียวกัน พายุไซโคลนมันดุซที่พัดถล่มชายฝั่งของศรีลังกาก็ได้ดึงมลพิษจากอินเดียเข้ามายังศรีลังกา
จนทำให้หน่วยงานสาธารณสุขของศรีลังกาต้องสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศเป็นการชั่วคราววันที่ 9 ธ.ค. และแจ้งเตือนให้เด็กเล็กกับผู้สูงวัยเก็บตัวอยู่ในบ้าน ส่วนองค์กรวิจัยด้านการสร้างชาติของศรีลังกา (NBRO) ระบุในแถลงการณ์ว่า คุณภาพอากาศในศรีลังกาอาจมีแนวโน้มดีขึ้นในวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ไซโคลนมันดุซกำลังเคลื่อนตัวออกจากศรีลังกา
เจ้าหน้าที่ของทางการอินเดียระบุว่า ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเกือบ 400 คน ลงพื้นที่ในรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งมีนครเจนไนเป็นเมืองเอกและตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของอินเดีย พร้อมเตือนให้ประชาชนเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นและเตรียมย้ายออกจากที่พักอาศัยไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ในขณะที่ไซโคลนมันดุซกำลังเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียในช่วงเที่ยงคืนวันนี้ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดียแจ้งก่อนหน้านี้ว่า ไซโคลนมันดุซได้อ่อนกำลังลงจากระดับรุนแรงแล้ว แต่เตือนว่าอิทธิพลของไซโคลนอาจทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือสตอร์มเซิร์จ เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวชายฝั่งทางเหนือของรัฐทมิฬนาฑูและเมืองปุฑุเจรีที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ทั้งยังระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงพื้นที่ทางเหนือของรัฐอานธรประเทศด้วย นอกจากนี้ยังแจ้งเตือนว่า บ้านเรือน เสาไฟฟ้า และเสาโทรคมนาคมที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งในพื้นที่ดังกล่าวอาจได้รับความเสียหายจากไซโคลนลูกนี้เช่นกัน