มือปืนกราดยิงงานเลี้ยงตรุษจีนที่สหรัฐฯฆ่าตัวตายหนีผิด อึ้งเป็นชายวัย72ปี-ยังไม่ทราบแรงจูงใจ
23 ม.ค. 2566 เว็บไซต์ นสพ.Los Angeles Times สื่อท้องถิ่นของเมืองลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว Authorities identify suspected gunman in Lunar New Year mass shooting ระบุว่า คนร้ายซึ่งก่อเหตุกราดยิงในเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก ไม่ไกลจากนครลอสแอนเจลิส เมื่อคืนวันที่ 21 ม.ค. 2566 ตามเวลาท้องถิ่น ตัดสินใจยิงตัวตาย โดยพบศพอยู่ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ทราบชื่อคือ ฮู คาน ทราน (Huu Can Tran) วัย 72 ปี ชาวเมืองเฮเมท รัฐแคลิฟอร์เนีย
ข่าวทีเกี่ยวข้อง
'ไบเดน'สั่งลดธงครึ่งเสาไว้อาลัย เหยื่อกราดงานยิงตรุษจีนดับ 10 ศพ
สุดระทึก! เกิดเหตุกราดยิงใกล้นครลอสแอนเจลิส เสียชีวิต 10 ราย
โรเบิร์ต ลูนา (Robert Luna) นายอำเภอแห่งลอส แองเจลิส เคาน์ตี กล่าวว่า ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย และการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป โดยเหตุกราดยิงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2566 เวลา 22.10 น. ที่สตูดิโอเต้นรำ สตาร์ แดนซ์ สตูดิโอ มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บอีก 10 คน ซึ่งวันดังกล่าวถือเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ในการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน หรือปีใหม่ทางจันทรคติของชาวจีน
ลูนา กล่าวต่อไปว่า 20 นาทีหลังเกิดเหตุ คนร้ายได้เข้าไปใน ไล ไล บอลรูมและสตูดิโอ ในอัลฮัมบรา ซึ่งอยู่ใกล้เคียง แต่ถูกคนในละแวกนั้นช่วยกันแย่งอาวุธ ทำให้คนร้ายต้องวิ่งหนีไป ต่อมาในเวลา 10.20 น. ของวันที่ 22 ม.ค. 2566 ตำรวจพบรถตู้สีขาวแล่นออกจากจุดเกิดเหตุใกล้ถนนเซพัลเวดาและฮาวโทรเม ในเมืองทอร์แรนซ์ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปเพื่อจะสอบถามผู้ครอบครองรถก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เวลา 13.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจเข้าตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องสงสัยคือ ทราน นั้นมีบาดแผลจากการยิงตัวตาย
การตรวจค้นยังยังพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการก่อเหตุ เช่น ป้ายทะเบียนที่ใช้นั้นถูกโจรกรรมมาสวมที่รถตู้ อีกทั้งพบปืนพกอยู่ในรถด้วย ขณะที่อาวุธปืนซึ่งคนในชุมชนอัลฮัมบรายึดได้จากคนร้าย เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติ รวมถึงมีการติดตั้งแม็กกาซีนเสริม ซึ่งแม็กกาซินแบบนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเริ่มรายงานเหตุ มีการระบุว่า คนร้ายเป็นชาวเอเชีย สูงราว 5 ฟุต 10 นิ้ว หนักราว 150 ปอนด์ สวมแจ็คเก็ตหนังสีดำ หมวกไหมพรมและแว่นตา
ในการแถลงข่าวช่วงค่ำวันที่ 22 ม.ค. 2566 จูดี ชู (Judy Chu) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ตั้งคำถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย เช่น มีอาการทางจิตหรือมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงในครอบครัวหรือไม่ รวมถึงที่มาของอาวุธปืนว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ สก็อต วิส (Scott Wiese) หัวหน้าหน่วยตำรวจมอนเทอร์เรย์ พาร์ก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดแรกที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุเพิ่งเข้าประจำการได้ไม่นาน เมื่อไปถึงก็พบความโกลาหล ผู้คนหนีตายเอาชีวิตรอด และพบกับฉากสังหารที่พวกเขาไม่ได้เตรียมรับมือมาก่อน
หว่อง เว่ย (Wong Wei) ซึ่งรอดจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้เพราะไม่ได้ไปงานดังกล่าวทั้งที่ได้รับเชิญ เล่าว่า มีเพื่อนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนได้รับคำบอกเล่าว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนยาวกราดยิงไม่เลือกเป้าหมาย โดย หม่า (Ma) หัวหน้าของสตูดิโอก็ถูกยิงเช่นกัน แต่ไม่แน่ใจว่าทั้งคู่เป็นตายร้ายดีอย่างไร ขณะที่ ชึง วอน ชอย (Seung Won Choi) เจ้าของร้านอาหารทะเลตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า มีคน 3 คนวิ่งมาที่ร้านอาหารของตนและบอกให้รีบล็อกประตู และบอกว่าหนีคนร้ายที่มีปืนกึ่งอัตโนมัติ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เหตุกราดยิงในครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับจุดที่มีผู้คนนับหมื่นมาฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยงานจะจัดระหว่างวันที่ 21-22 ม.ค. 2566 แต่ก็ต้องถูกยกเลิกเพราะเหตุกราดยิง ทั้งนี้ มอนเทอร์เรย์ พาร์ก เป็นเมืองในหุบเขาซาน เกเบรียล มีประชากร 61,000 คน ร้อยละ 65 เป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย รองลงมาคือเชื้อสายลาติน ร้อยละ 27 และคนผิวขาว ร้อยละ 6 ที่นี่เป็นศูนย์กลางของร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตแนวอเมริกันเอเชีย
ส่วน สตาร์ แดนซ์ สตูดิโอ เปิดมาแล้ว 30 ปี สอนเต้นรำแบบวอลซ์ แทงโก้และแบบจีน อีกทั้งให้บริการเช่าห้องจัดเลี้ยงและคาราโอเกะด้วย โดย เดวิด ดูวัล (David DuVal) ครูสอนเต้นแนวแซมบ้าและแทงโก้ ที่เพิ่งไปสอนในสตูดิโอเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 กล่าวว่า งานเลี้ยงในคืนวันที่ 21 ม.ค. 2566 หรือวันเกิดเหตุสะเทือนขวัญนั้น ผู้ไปร่วมน่าจะเป็นผู้สูงอายุ เพราะหลายคนที่่เคยสอนก็อายุมากกว่าตน ซึ่งที่นั่นมักมีผู้สูงวัยไปเต้นรำกันอยู่เสมอ บางคนก็อายุได้ 90 ปีแล้ว เพราะผู้สูงอายุสนุกกับการเต้นรำและยังได้ออกกำลังกายด้วย
ที่มา latimes