เหยื่อแผ่นดินไหว‘ตุรกี-ซีเรีย’พุ่งหนัก
ตายครึ่งหมื่น
WHOประเมินเสียชีวิตกว่า 2 หมื่นคน
หนาวติดลบซ้ำเติมผู้รอดชีวิต
ทั่วโลกเร่งส่งทีมกู้ภัยช่วยเหลือ
สมัชชายูเอ็นประกาศไว้อาลัย
‘บัวแก้ว’ยันคนไทยปลอดภัย
ยูเอ็น-นานาชาติระดมความช่วยเหลือ “ตุรกี-ซีเรีย” ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด ซึ่งหนักสุดในรอบ 50 ปี ยอดผู้เสียชีวิตรวมสองประเทศพุ่งไม่หยุดทะลุ 4.8 พันศพ ผู้บาดเจ็บอย่างน้อยหลายหมื่นคน ผู้รอดชีวิตต้องเผชิญอากาศหนาวจัดซ้ำเติมอีก ด้านผู้นำตุรกีประกาศลดธงครึ่งเสาไว้อาลัย 7 วัน ขณะที่ประเทศไทยนายกฯแสดงความเสียใจพร้อมช่วยเหลือ โดยครม.ไฟเขียวช่วยเหลือ
ตุรเคีย ยันคนไทย 4 รายยังปลอดภัยดี
เมื่อวันที่ 7กุมภาพันธ์ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 ที่เกิดขึ้นในตุรกีและซีเรีย เมื่อเวลา 04.17น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 08.17น.วันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อาคารบ้านเรือนพังทั้งหลังจำนวนมากและส่งแรงสั่นสะเทือนไปไกลรู้สึกได้ถึงไซปรัสและอิยิปิต์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
ระดมค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหว
โดยสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของทูร์เคียหรือตุรกีเปิดเผยถึงปฎิบัติการค้นหาวันเดียวกันนี้ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยในทูร์เคียหรือตุรกีและซีเรียต่างระดมกำลังเร่งค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังทับถม ท่ามกลางความมืด อากาศหนาวจัดและอาฟเตอร์ช็อกที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง หน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งเปิดเผยสภาพความเสียหายในหลายเมืองว่า อาคารต่างๆพังราบเป็นหน้ากลอง ซ้ำเติมสถานการณ์ทั้งสองประเทศที่เผชิญสงคราม เหตุก่อความไม่สงบ วิกฤตผู้ลี้ภัย และอหิวาตกโรคที่เพิ่งระบาดเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะเมืองกาเซียนเท็ป ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อาคารพักอาศัยจำนวนมากพังเหลือแต่ซากอยู่บนกองหิมะ ผู้รอดชีวิตต้องพักค้างคืนกลางถนน บางคนนอนในรถบัส บางคนใช้แผ่นพลาสติกห่อตัวปกป้องความหนาวเย็น และบางคนก่อไฟสร้างความอบอุ่น
ตายพุ่งไม่หยุดเฉียดครึ่งหมื่น
สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของตุรกีแจ้งยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.ตามเวลาในประเทศไทยอยู่ที่ 3,381 คน ยอดเสียชีวิตในซีเรียประมาณ 1,509 คน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันสองประเทศแล้ว 4,890 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกประเมินว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงถึง 20,000 คน องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก แสดงความกังวลเรื่องเมืองมรดกโลก 2 แห่งได้รับความเสียหายหนัก ประกอบด้วยเมืองอเลปโป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย และเมืองดียาร์บากีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ขณะที่ผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นมากกว่า 14,500 คน อาคารพังเสียหายเหลือแต่ซากอย่างน้อย 5,606หลัง นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดมาในตุรกี
หนาวติดลบซ้ำเติมคนรอดชีวิต
ขณะที่สถาบันธรณีวิทยาของเดนมาร์กแจ้งว่า แรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงฝั่งตะวันออกของเกาะกรีนแลนด์หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ตุรกีแล้ว 8 นาที มีแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นตามมาหลายระลอก หนึ่งในนั้นมีขนาดถึง 7.5 เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือและกู้ภัย นอกจากนี้ ผู้ผู้รอดชีวิตต้องพักอาศัยท่ามกลางอุณหภูมิหนาวติดลบ ทำให้การจัดส่งความช่วยเหลือเผชิญอุปสรรคจากหิมะและน้ำแข็งที่ปกคลุมถนนสายหลัก ส่วนท่าอากาศยานใหญ่ 3 แห่งในพื้นที่ประสบภัยยังใช้การไม่ได้
ผู้นำตุรกีประกาศไว้อาลัย7วัน
สำนักข่าวอนาโดลูของทางการตุรกีรายงานด้วยว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นยังสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ปราสาทกาเซียนเท็ป (Gaziantep Castle) สถานที่ประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ส่วนมัสยิดซีวาร์นี (Şirvani Mosque) ที่อยู่ติดกับปราสาทเสียหายบางส่วน
นายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกีประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศให้เหยื่อแผ่นดินไหว ให้ลดธงครึ่งเสา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ และที่สำนักงานผู้แทนตุรกีในต่างประเทศทุกแห่ง
ยูเอ็น-นานาชาติเร่งส่งความช่วยเหลือ
ด้านที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกายืนสงบนิ่ง 1 นาที ไว้อาลัยต่อเหยื่อเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 4,300 คนในตุรกีและซีเรีย นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ออกแถลงการณ์ว่า ทีมงานของยูเอ็นลงพื้นที่เพื่อประเมินความต้องการและให้ความช่วยเหลือ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในประชาคมระหว่างประเทศที่จะช่วยเหลือหลายพันครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ ซึ่งหลายคนต้องการความช่วยเหลืออย่างมากโดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
ปฎิกิริยาของผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลกต่างประกาศให้ความช่วยเหลือกับตุรกีและซีเรียที่เผชิญเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสหภาพยุโรป (อียู) ระดมทีมกู้ภัย 10 ทีมช่วยเหลือตุรกี และจะเปิดใช้งานระบบดาวเทียมโคเปอร์นิคัส เพื่อให้บริการทำแผนที่ฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ แสดงความเสียใจกับการเสียชีวิต พร้อมส่งทีมค้นหาและกู้ภัย 2 ทีมๆละ 79 คนเข้าไปยังตุรกี เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุจะส่งทีมกู้ภัยประมาณ 300 คนเข้าไปยังตุรกีและซีเรีย นอกจากนี้ทหารรัสเซียประมาณ 300 นายที่ประจำการในซีเรียเร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นทีประสบภัยแล้ว
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า สภากาชาดจีนมอบเงิน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐให้สภาเสี้ยววงเดือนแดงของตุรกีและซีเรีย ขณะที่หน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศของจีนกำลังติดต่อกับตุรกีและซีเรีย เพื่อให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกรณีฉุกเฉินตามความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศอย่างกาตาร์ โปแลนด์ กรีซ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อิตาลี ประกาศพร้อมส่งทีมกู้ภัยและกองกำลังคุ้มครองพลเรือนเข้าร่วมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในตุรกีและซีเรียเช่นกัน โดยยูเออียังประกาศมอบเงิน 13.6 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรียด้วย
นายกฯไทยแสดงความเสียใจ
ส่วนความเคลื่อนไหวของไทย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบและแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ศูนย์กลางอยู่ในเขต Pazarcık ทางตอนใต้ของจังหวัด Kahramanmaras ศูนย์กลางลึกลงไป 7 กิโลเมตรติดพรมแดนซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในนามรัฐบาลและประชาชนไทย นายกฯกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสาธารณรัฐทูร์เคีย (ตุรกี) และทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น นายกฯเชื่อมั่นว่า ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะก้าวผ่านภัยพิบัติครั้งนี้ได้ในเร็ววัน อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือผ่านการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ นายกฯขอให้ประชาชนไทยในพื้นที่ระวังตัว ตรวจสอบติดตามข่าวสาร จากทางการตุรกี หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ +90 533 641 5698 ได้ตลอด 24ชั่วโมงและทาง Facebook Page สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา
ครม.ไฟเขียวช่วยตุรกี-คนไทยปลอดภัย
หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการารายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว พบมีคนไทย 1 ราย ที่ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนคนไทยอีก 3 ราย ได้ไปพักอาศัยในพื้นที่ที่ทางการตุรกีจัดให้ชั่วคราว ทั้งหมดอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและอยู่ในเมืองที่ห่างไกลจากเมืองหลวง ทั้งนี้ ในที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบให้ความช่วยเหลือประเทศตุรกี ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเงิน เวชภัณฑ์ ทีมช่วยเหลือ โดยรอว่าทางการตุรกีจะประสานขอรับความช่วยเหลืออะไรบ้าง สำหรับคนไทยในตุรกี หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ติดต่อสถานทูตไทยในตุรกีได้ตลอดเวลา
แรงงานไทยยังไม่ได้รับผลกระทบ
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า นายกฯห่วงใยและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อมูลว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานนั้นไม่มีทูตแรงงานในตุรกี อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมการจัดหางาน พบว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยยังทำงานอยู่ในตุรกีที่ผ่านกรมการจัดหางาน 83 คน ในจำนวนนี้เดินทางดัวยตนเอง 45 คน นายจ้างพาไปทำงาน 1 คน และ Re - entry 37 คน ส่วนใหญ่ไปทำงานในตำแหน่งพนักงานนวดสปา กุ๊ก นวดแผนโบราณ พ่อครัวแม่ครัว เป็นต้น ทั้งนี้ ยังสั่งการให้สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงแรงงานประสานกระทรวงการต่างประเทศใกล้ชิด เบื้องต้น ยังไม่พบรายงานว่าแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี