กต.ย้ำคนไทยในอิสราเอล
รีบออกจากพื้นที่อันตราย
รมว.กต.ย้ำคนไทยในอิสราเอล-อิหร่าน ให้รีบออกจากพื้นที่อันตราย-อย่าประวิงเวลา ด้าน ปธน.ทรัมป์ฮึ่ม! เตรียมถล่ม “อิหร่าน” เร็วๆ นี้ เมิน ขอความเห็นชอบจาก “สภาคองเกรส”
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดอิสราเอล-อิหร่านที่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยขอเรียกร้องให้พี่น้องคนไทย “ออกจากพื้นที่” เป้าหมายการโจมตี และบริเวณใกล้เคียง โดยในระยะเร่งด่วน ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง นำคณะจากส่วนกลางที่ไทย ไปสนับสนุนภารกิจของสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล และอิหร่านแล้ว เพื่อให้สามารถช่วยเหลือคนไทยได้อย่างทันท่วงที
นายมาริษ ยังย้ำว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ตนได้ประชุมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กับผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูต และสถานกงสุลใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อประเมินสถานการณ์ และได้รับรายงานว่า ขณะนี้ ในอิหร่านมีคนไทยที่เข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว 35 คน และมีผู้แสดงความประสงค์ จะเดินทางออกจากอิหร่าน 5 คน ในอิสราเอลมีคนไทยแสดงความประสงค์จะเดินทางออกจากอิสราเอล 3 คน ซึ่งตนได้กำชับให้สถานเอกอัครราชทูตในทั้ง 2 ประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนไทยทุกคน เดินทางออกมาจากพื้นที่ทันทีที่ปลอดภัย
นายมาริษ ยังย้ำว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมดูแลพี่น้องคนไทยในต่างแดน แต่อยากขอให้พิจารณา ออกจากพื้นที่อันตราย ในขณะที่ยังสามารถเดินทางออกมาได้ อย่าประวิงเวลา รอจนสถานการณ์จวนตัว และขอให้รีบติดต่อสถานทูตในอิสราเอลและอิหร่านที่สายด่วนทันที สถานทูต ณ กรุงเทลอาลีฟ หมายเลข +972 546 368150 และ +972 503 673195 สถานทูต ณ กรุงเตหะราน หมายเลข +98 912 159 5699 และ +98 912 500 7933 และ call center หมายเลข 02 572 8442 ของกระทรวงการต่างประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่กรุงวอชิงตันดีซี เกิดความตึงเครียดหลังจากที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าใกล้การใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา การที่สหรัฐประกาศสงครามต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง ประธานาธิบดีสหรัฐจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา แต่มีการคาดการณ์ว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์’จะใช้อำนาจพิเศษของฝ่ายบริหารในการเข้าร่วมปฏิบัติการกับอิสราเอลในการทำสงครามโจมตีอิหร่าน โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรส ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่านแล้วโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากรัฐสภาและเขาได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่านเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ‘ปธน.ทรัมป์’ มีกำหนดประชุมกับที่ปรึกษาระดับสูงในห้องสถานการณ์ โดยเขาจะรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับข่าวกรองในวันนี้ แม้ตรงกับวันหยุดราชการของสหรัฐ เนื่องในวันจูนทีนธ์ ซึ่งรำลึกถึงการสิ้นสุดของการค้าทาสในอเมริกา
กองทัพสหรัฐได้เคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังยุโรปและตะวันออกกลาง โดยรวมถึงเครื่องบินรบ F-22 รุ่นล่าสุด เรือรบที่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธ เครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ และกองเรือบรรทุกเครื่องบินรบ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากสหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีอิหร่านร่วมกับอิสราเอล ก็คาดว่าจะเป็นการทิ้งระเบิดโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่านในเมืองฟอร์โด โดยใช้ระเบิดทำลายบังเกอร์ของสหรัฐ
มีรายงานแจ้งด้วยว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ได้แจ้งต่อคณะทำงานว่าเขาได้อนุมัติแผนการโจมตีแล้ว แต่ยังชะลอการดำเนินการไว้ก่อน เพื่อรอดูว่าอิหร่านจะยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่
ต่อมา แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษก ทำนียบขาว อ้างข้อความจาก ทรัมป์ ซึ่งระบุว่า “สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า มีโอกาสมากพอสมควรที่การเจรจากับอิหร่านจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมจึงจะตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่าจะเดินหน้าไปต่อหรือไม่”
ทรัมป์ ปล่อยให้ทั่วโลกคาดเดาไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับแผนของเขา โดยเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจากการเจรจาทางการทูตไปสู่การข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจจะร่วมมือกับอิสราเอลบดขยี้อิหร่าน เขายังโพสต์โซเชียลมีเดียข่มขู่ว่าจะสังหาร อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ก่อนจะเรียกร้องให้อิหร่านต้องยอมจำนนแบบไม่มีเงื่อนไข
แคโรไลน์ ลีวิตต์ ปฏิเสธที่จะตอบว่า ทรัมป์ จะขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อนโจมตีอิหร่านหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีสมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อรายงานของ CBS และสื่ออีกหลายเจ้าที่ระบุว่า ทรัมป์ ได้เซ็นอนุมัติแผนโจมตีอิหร่านไปแล้วโดยไม่ผ่านสภาคองเกรส ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวที่มีอำนาจในการประกาศสงคราม
ผู้เชี่ยวชาญทางทหารเชื่อว่า สหรัฐอาจจำเป็นต้องใช้ระเบิด GBU-57 หลายลูกเพื่อปิดฉากและทำลายโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดอย่างสมบูรณ์ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
(ระเบิด GBU-57 Massive Ordnance Penetrator (MOP) ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “บังเกอร์บัสเตอร์” หรือ “ระเบิดทำลายบังเกอร์” มีน้ำหนัก 30,000 ปอนด์ สามารถทะลุทะลวงทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกภายใต้พื้นดิน)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี