เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง

เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง

วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568, 21.55 น.

นักเรียนชายแดนศรีสะเกษต้อนรับ "แม่ทัพกุ้ง" กรี๊ดสนั่นทั้งโดม! บรรยายสร้างขวัญกำลังใจ-ร่วมรำลึกเหตุการณ์ไม่สงบ

วันที่ 13 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. ที่โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมาเยี่ยมนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ชายแดน เพื่อบรรยายและให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอดีต


 บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น ทันทีที่แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาถึง เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มทั่วโดม นักเรียนและประชาชนต่างรีบเข้ามาต้อนรับ ขอถ่ายภาพร่วมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่พร้อมใจกันชูโทรศัพท์มือถือเพื่อเก็บภาพความประทับใจ ท่ามกลางความปลื้มปีติและความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

 ภายในงานมีการเปิดวีดิทัศน์ที่จัดทำโดยโรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา บอกเล่าเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน ซึ่งเคยส่งผลให้เด็กนักเรียนเสียชีวิตจากเหตุการณ์จรวด BM-21 ตกบริเวณปั๊มน้ำมัน ในร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่เด็กนักเรียนผู้กล้า ที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนในเหตุการณ์วันนั้น โดยมีผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตรอเข้าพบแม่ทัพฯ เพื่อรับกำลังใจอย่างใกล้ชิด

 แม่ทัพบุญสินได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมงานว่า ตนไม่จำเป็นต้องมีสคริปต์ในการบรรยาย เพราะทุกคำพูดมาจากความจริงใจและจากประสบการณ์ตรงในการทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน พร้อมทั้งเผยความรู้สึกอย่างเป็นกันเองว่า "ทุกวันนี้ผมมีคนติดตามมากในโซเชียล วันดีคืนดีมีภาพกอดใครไม่รู้ แต่ไม่ได้เป็นคนสร้างช่องเอง มีคนทำให้เอง เคยมีคนเล่าว่าก่อนนอนจะต้องดูว่าแม่ทัพฯ ไปไหน ทำอะไร"

ตลอดการบรรยายมีคำถามจากนักเรียนหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องการเปิด-ปิดชายแดน ซึ่งแม่ทัพฯ ได้อธิบายว่า การปิดด่านมีผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อกัมพูชา โดยเฉพาะสินค้าอย่างน้ำมันและปูนซีเมนต์ที่อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารไทย “การปิดด่านก็เหมือนการชนะโดยไม่ต้องรบ ขอให้ประชาชนไทยอดทนอีกนิด ไม่นานทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ” แม่ทัพกล่าว

เมื่อถูกถามว่ามีวันที่รู้สึกเหนื่อยบ้างหรือไม่ แม่ทัพบุญสินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไม่มีวันเหนื่อย แม้แต่วันนี้ก็ไม่เหนื่อย ชีวิตเพื่อข้า หัวใจเพื่อเธอ เพื่อพวกเธอทุกคน เพื่อแผ่นดินไทย”

 ชาวบ้านยังได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการสร้างอนุสรณ์สถานที่ภูมะเขือ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นเครื่องเตือนใจถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งแม่ทัพฯ ตอบว่า มีแนวคิดในการสร้างอนุสาวรีย์แห่งเกียรติยศของทหารไทยบนยอดภูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และกล่าวเสริมว่า “ในฤดูหนาวนี้ หากขึ้นไป จะเห็นหมอกสวยงามปกคลุมยอดเขา และมองเห็นธงชาติไทยปักอยู่เหนือยอดภูอย่างสง่างาม”

 อีกหนึ่งคำถามที่สร้างรอยยิ้ม คือ “แม่ทัพนอนหลับบ้างไหม?” ซึ่งเจ้าตัวตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้นอน เพราะพ่อแม่พี่น้องต่อว่าทุกวัน ว่าทำไมยังไม่เปิดซะที โอ้ย ทำไมใจร้อนกันจัง! แต่พอได้รบแล้ว ผมนอนหลับได้ สั่งบุกอย่างเดียว ไม่ได้ไล่เขาออกจากบ้าน แต่ทวงคืนแผ่นดินของเรา”

 ส่วนคำถามเกี่ยวกับการประกาศปิดปราสาทตาเมือนธม แม่ทัพฯ ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุด “เพราะการปิดเท่ากับการประกาศสงครามทันที แต่หากไม่ปิด ประชาชนทั้งสองฝั่งอาจตีกันเอง ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น จึงตัดสินใจสั่งปิด แม้รู้อยู่แล้วว่าจะมีการปะทะเกิดขึ้น”

 แม่ทัพบุญสินยังกล่าวให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ BM-21 และเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของประชาชนว่า “แม้จะไม่ได้อยู่แนวหน้า แต่ประชาชนก็มีความเสี่ยงไม่แพ้กัน ต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบ โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือในการอพยพเมื่อมีสถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่”

ช่วงท้าย แม่ทัพฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับนักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา ประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และบรรยากาศแห่งความอบอุ่นใจที่ยากจะลืมเลือนของช่วงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top