วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
สำรวจ'เชียงใหม่'โอกาสเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว หลังไทยปลด'กัญชา-กัญชง'

สำรวจ'เชียงใหม่'โอกาสเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว หลังไทยปลด'กัญชา-กัญชง'

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566, 10.49 น.
Tag : กัญชา กัญชง เศรษฐกิจการท่องเที่ยว เชียงใหม่
  •  

สื่อนอกพาสำรวจ‘เชียงใหม่’ โอกาสเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว หลังไทยปลด‘กัญชา-กัญชง’พ้นยาเสพติด

23 มี.ค. 2566 Insider สำนักข่าวออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเน้นเสนอข่าวด้านเศรษฐกิจ เสนอรายงานพิเศษ Meet the people in Chiang Mai riding high on the legalization of marijuana in Thailand ว่าด้วย “เชียงใหม่ (Chiang Mai)” จังหวัดทางภาคเหนือของไทย กับโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายหลังรัฐบาลไทยปลด “กัญชา (Cannabis หรือ Marijuana)” พ้นจากบัญชียาเสพติดให้โทษ เปลี่ยนจากสิ่งผิดกฎหมายให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ


แม้จะมีประวัติศาสตร์บอกเล่าการใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบอาหารและยาพื้นบ้านมานานในสังคมไทย แต่ในเวลาต่อมา กัญชาถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติด ดังนั้นไม่ว่าจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดย่อมเข้าข่ายผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา ผู้ครอบครองอาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และปรับสูงสุดถึง 1 แสนบาท กระทั่งในปี 2562 รัฐบาลไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมด้วยการยอมรับกัญชาในฐานะยาชนิดหนึ่ง จาอนั้นในปี 2564 ก็มีการเปิดให้ขึ้นทะเบียนขออนุญาตปลูกและใช้กัญชาได้

Prohibition Partners องค์กรที่ทำงานวิจัยและวิเคราะห์ตลาดในอุตสาหกรรมกัญชาระดับโลก พบว่า อุตสาหกรรมกัญชาในประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นพืชเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีมูลค่า 661 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2567 ทั้งนี้ ในเดือน มิ.ย. 2565 รัฐบาลไทยกระตุ้นความสนใจในกัญชา ด้วยการแจกต้นกัญชา 1 ล้านต้นให้กับประชาชน และธุรกิจต่างๆ ก็กระโดดเข้ามาคว้าโอกาสนี้เช่นกัน อาทิ เครือธุรกิจโรงแรม 5 ดาวในเชียงใหม่ ได้เปิดตัว “สปากัญชา (Marijuana-Infused Spa)” แห่งแรกของประเทศ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีที่ประเทศไทยเริ่มสร้างภูมิทัศน์การท่องเที่ยวเกี่ยวกับกัญชา เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ชัดเจนที่สุด เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการรับรองถูกกฎหมาย ผู้สื่อข่าวของ Insider ได้เดินทางไปยังเมืองแห่งนี้ และพูดคุยกับเจ้าของร้านขายยาและร้านอาหารสามแห่งเพื่อดูว่าการเป็นแถวหน้าของการท่องเที่ยวกัญชาในประเทศไทยเป็นอย่างไร

ชอว์น ฮีลลี (Shawn Healy) และ อแมนดา เก็ดนีย์ (Amanda Gedney) ชาวอเมริกันที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 ทั้งคู่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและทำงานไปด้วย โดย ฮีลลี ทำงานในโรงพยาบาลสัตว์ ส่วน เก็ดนีย์ อยู่ในงานด้านแฟชั่น ซึ่ง เก็ดนีย์ ที่เป็นชาวเมืองนิวยอร์ก เล่าว่า เริ่มใช้สาร CBD ที่ได้จากกัญชา เพื่อรักษาอาการปวดท้อง โดยก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่สหรัฐฯ ตนต้องใช้ยาหลายแขนง แต่เมื่อมาอยู่ที่เมืองไทยก็ไม่ต้องทำแบบนั้นอีกเลย จึงเชื่อมั่นในประโยชน์ของสาร CBD ขณะที่ ฮีลลี ชาวเมืองมาร์ลโมโร รัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า ใช้กัญชามาตั้งแต่อยู่ที่สหรัฐฯ แล้ว แต่ไม่เคยขายหรือทำงานในร้านจำหน่ายกัญชามาก่อน 

ในปี 2564 ทั้งคู่พร้อมด้วยหุ้นส่วนชาวไทยอีกหลายราย ได้เปิดตัวร้าน “กรีนด็อก (Green Dog)” ที่ย่านศิลปะในเชียงใหม่ ตกแต่งร้านในลักษณะเป็นกระท่อมสีเขียวสดใส ที่นี่จำหน่ายทั้งกัญชา บ้อง และอาหารที่มีส่วนผสมของใบกัญชง (Hemp) ผู้สื่อข่าวของ Insider ไปเยือนร้านแห่งนี้ในเดือน ก.ค. 2565 สิ่งที่พบคือมีชาวต่างชาติหลายคนซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศที่กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ใช้เวลาอย่างอยากรู้อยากเห็นในการถ่ายภาพและสำรวจสิ่งของกระจุกกระจิกที่จัดแสดง ลูกค้าขาประจำ 2-3 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติก็แวะมาสั่งซื้อกัญชาประจำสัปดาห์ด้วย

ฮีลลีและเก็ดนีย์ จัดหากัญชาส่วนใหญ่ในร้านจากฟาร์มในท้องถิ่น เนื่องจากอุตสาหกรรมกัญชายังคงเป็นตลาดที่กำลังเติบโตในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงมีราคาแพง Healy กล่าวว่าดอกไม้ของต้นกัญชา 1 ออนซ์ที่เรียกว่ากัญชงมีราคาสูงถึง 20,000 บาท กัญชาคุณภาพสูงในประเทศไทยปลูกในฟาร์มในร่มปรับอากาศโดยใช้แสงไฟปลูกและดินที่มีการควบคุม กรีนด็อกเป็นหนึ่งในร้านแรกๆ ในเชียงใหม่ที่นำเสนอเมนูที่มีกัญชา ซึ่งขณะนั้นประเทศไทยยังมีการควบคุมอย่างหลวมๆ แต่ในปัจจุบันร้านอาหารต้องได้รับใบอนุญาตจึงจะเสิร์ฟกัญชาผสมอาหารได้

ในเดือน มี.ค. 2566 ทั้งคู่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีบางอย่างเปลี่ยนไป โดยทางร้านไม่ได้รับอนุญาตให้ขายอาหารที่ปรุงสำเร็จและกัญชาในอาคารเดียวกัน จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ร้านเคยมีเมนู เช่น ใบกัญชาทอด เจลาโต้ใส่เมล็ดกัญชา และข้าวถ้วยใส่ใบกัญชา แต่ยังคงขายเครื่องดื่มผสมกัญชาซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าของร้าน อาทิ ชาใบกัญชงแห้ง ซึ่งเป็นชาที่ผสมใบแห้งจากต้นกัญชาตัวผู้ เป็นชาที่ขายดีที่สุดของร้านเนื่องจากมันช่วยปลอบประโลมลูกค้า ซึ่งทางร้านต้องการให้ผู้คนสามารถใช้เวลาทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลและรู้สึกผ่อนคลาย

ร้านต่อมาที่ทีมงาน Insider เดินทางไปสำรวจคือ “คันนาบิส คาเฟ่ (Cannabis Café)” ที่นี่ Tao ชาวไทยซึ่งเป็นทั้งเจ้าของและเชฟประจำร้าน กล่าวว่า มีจำหน่ายทั้งอาหารและยาที่มีส่วนผสมของกัญชา ร้านเริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี 2564 ในเวลานั้นยังมีกฎระเบียบค่อนข้างเข้มงวด โดย Tao เคยเป็นพ่อครัวใหญ่ในโรงแรมชั้นนำของเชียงใหม่ และยังเคยเข้าแข่งขันรายการ “เชฟกระทะเหล็ก (Iron Chef)” อีกด้วย

เชฟชาวไทยผู้นี้ที่ชำนาญในการทำอาหารพื้นเมืองภาคเหนือของไทย เริ่มขายกัญชาและใส่กัญชาลงในอาหารเพื่อกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวกัญชาที่เพิ่มขึ้นในเชียงใหม่ มีการคิดหาวิธีใช้สาร THC ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในกัญชา และสาร CBD ในอาหาร Tao เล่าว่า ตอนที่ตนเริ่มปรุงอาหารด้วย THC เป็นครั้งแรก ก็ยังรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ามันช่วยเพิ่มรสชาติอาหารได้มากเพียงใด

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฉบับปรับปรุงปี 2566 ระบุว่า การใช้สาร THC ปริมาณเกินกว่าร้อยละ 0.2 ต้องได้รับอนุญาตจากทางการ สำหรับ Tao ในช่วงแรกๆ ถือเป็นงานที่ท้าทาย เขาย้ำว่า ตั้งเป้าหมายในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารอย่างสม่ำเสมอ โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีคุณภาพสูง เพราะเมื่อให้บริการก็ต้องมีความรับผิดชอบ ทั้งนี้ การใช้กัญชาของร้านจะใช้ในปริมาณที่น้อยมากๆ โดยหวังผลเพียงให้พอได้รู้สึกสัมผัสกับกัญชาเท่านั้น ที่สำคัญยังยืนยันด้วยว่าแม้จะทำอาหารผสมกัญชาแต่ก็ไม่สูบกัญชา

Tao กล่าวต่อไปว่า สังคมไทยยังมีทัศนคติเชิงลบกับการสูบกัญชา ดังนั้นคนไทยส่วนใหญ่รวมถึงตนจึงไม่ใช้กัญชาด้วยจุดประสงค์นี้ และบางคนก็มองกัญชาด้วยความหวาดระแวง ในขณะที่ชาวตะวันตกมองว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดและชื่นชอบมัน ร้านอาหารของ Tao เป็นที่นิยมในการให้บริการอาหารค่ำสไตล์เชฟเทเบิล เชฟผู้นี้มักจะปรับแต่งอาหารตามคำขอของลูกค้า และเต็มใจที่จะทดลองกับกัญชา 

โดยหากลูกค้าขออาหารที่เฉพาะเจาะจง เช่น อาหารตะวันตก Tao ก็พร้อมจะทำให้ได้ สำหรับวิธีใช้กัญชาโดยทั่วไปคือการใส่ลงในเนย มะพร้าว และแม้แต่แป้ง อนึ่ง นอกจากขายอาหารแล้ว Tao ยังเปิดร้านขายกัญชาในฐานะยา ซึ่งก็เคยมีลูกค้าถามว่าขอสูบกัญชาด้วยบ้องได้หรือไม่ แต่ Tao ก็บอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะมันไม่ได้ทำให้ธุรกิจของร้านดีขึ้น และแนะนำว่าสามารถสูบได้ในลักษณะเหมือนบุหรี่ คือมีวัสดุมวนห่อพันกัญชาไว้เท่านั้น เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ด้วย

Ball Chayakul ชาวเชียงใหม่ที่มีโอกาสไปเรียนต่อในสหรัฐฯ จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ เคยเป็นนักร้อง-นักดนตรี ก่อนกลับมาเปิดร้านขายยากัญชา “สโตเนอร์ ซีเอ็นเอ็กซ์ (Stoner CNX)” หลังจากที่ทางการไทยปลดกัญชาพ้นจากการเป็นยาเสพติดเมื่อเดือน มิ.ย. 2565  ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาหาซื้อกัญชงไปสูบ และหลายคนมาจากประเทศที่กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

Chayakul มองว่า การที่กัญชาได้รับความนิยมในเชียงใหม่เพราะบรรยากาศที่ผ่อนคลายของเมือง นักท่องเที่ยวมีความสุขมากกับสิ่งนี้ หลายคนประหลาดใจที่ประเทศไทยอนุญาตให้ใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจได้ ในช่วง 2-3สัปดาห์แรก พวกเขาไม่มั่นใจที่จะซื้อมันเพราะไม่รู้ว่ามันถูกกฎหมายและกลัวจะถูกจับกุม จนกระทั่งมาถึงที่นี่โดยร้านของ Chayakul เป็นเพิงเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่หลังร้านกาแฟชื่อดัง ภายในมีการจัดแสดงกัญชงและอุปกรณ์การสูบหลากสีสัน

ผลิตภัณฑ์กัญชาของ Chayakul เริ่มต้นที่ 450 บาท ที่นี่ไม่เหมือนร้านอื่นๆ ในเชียงใหม่เพราะไม่ได้จัดหากัญชาในท้องถิ่น แต่นำเสนออย่างภูมิใจด้วยการนำ “คุณภาพแคลิฟอร์เนีย” มาสู่เชียงใหม่สำหรับผู้ใช้กัญชาที่เข้าใจเรื่องนี้ Chayakul ยังกล่าวอีกว่า ผู้คนทั่วโลกนิยมบริโภคกัญชา ไม่ใช่แต่เฉพาะในเชียงใหม่เท่านั้น โดยก่อนปี 2563 ที่เกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และไทยใช้มาตรการปิดประเทศ Chayakul ตระเวนไปทั่วสหรัฐฯ รวมถึงในทวีปยุโรป เพื่อค้นหาสายพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุด พร้อมกับประกาศว่าสินค้าของคนร้านอื่นๆ ในเชียงใหม่ไม่มีแน่นอน

ร้านขายยาของ Chayakul เป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจกัญชากว่า 220 แห่งในเชียงใหม่ ตามฐานข้อมูล WEED.IN.TH ของไทย ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกัญชากำลังเฟื่องฟูในเมืองนี้ ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่มากมาย กฎระเบียบเกี่ยวกับกัญชายังคงบังคับใช้อย่างหลวมๆ แต่ถึงกระนั้น ทางการไทยได้ผลักดันให้กฎระเบียบเข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับ ณ วันนี้ บรรดาผู้ประกอบการยังคงกระตือรือร้นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในกิจการยังคงมีการถกเถียงกันอยู่เสมอ

ขอบคุณเรื่องจาก insider

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ศุลกากร‘อินเดีย’แฉขบวนการลักลอบขน‘กัญชา’จากไทย ใช้ผู้หญิงลำเลียงมากขึ้น ศุลกากร‘อินเดีย’แฉขบวนการลักลอบขน‘กัญชา’จากไทย ใช้ผู้หญิงลำเลียงมากขึ้น
  • \'เชียงราย-เชียงใหม่\' สื่ออิสราเอลชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสเสน่ห์2เมืองภาคเหนือของไทย 'เชียงราย-เชียงใหม่' สื่ออิสราเอลชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสเสน่ห์2เมืองภาคเหนือของไทย
  • สายเขียว‘บราซิล’เฮ! ศาลฎีกามีคำสั่ง ปชช.ครอบครองกัญชาใช้เองไม่เกิน40กรัมไม่มีความผิด สายเขียว‘บราซิล’เฮ! ศาลฎีกามีคำสั่ง ปชช.ครอบครองกัญชาใช้เองไม่เกิน40กรัมไม่มีความผิด
  •  

Breaking News

‘ปธ.กมธ.กิจการสภาฯ’โร่แจงสร้าง'โรงหนัง4D'ต้องการฉายประวัติศาสตร์การเมืองให้ปชช.

หยุดยาว นทท.ไทยทะลัก! ‘ลงเกาะหมาก-กูด’ ที่พักเต็มแน่นทุกห้องเกิน 5 พันคน

ส่งกำลังใจ! ภรรยา'ด้งเด้ง'เผยอาการล่าสุด หัวใจหยุดเต้น 2 ครั้ง

หมาข้าใครอย่าแตะ! ลุงแค้นฝังใจ 6 เดือนไม่ลืม'หมารัก'โดนฟันเจอหน้ายิงทันที

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved