ศุลกากร‘อินเดีย’แฉขบวนการลักลอบขน‘กัญชา’จากไทย ใช้ผู้หญิงลำเลียงมากขึ้น

ศุลกากร‘อินเดีย’แฉขบวนการลักลอบขน‘กัญชา’จากไทย ใช้ผู้หญิงลำเลียงมากขึ้น

วันอาทิตย์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2568, 00.01 น.

26 เม.ย. 2568 นสพ. The Hindu ของอินเดีย รายงานข่าว Women increasingly used as carriers of hybrid ganja smuggled from Bangkok อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำสนามบินโคจิ รัฐเกรละของอินเดีย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศ และของกลางที่ยึดได้นั้นมาจากประเทศไทย

เมื่อเดือน มี.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้หญิง 2 คน พร้อมกัญชาที่ต้องสงสัยว่าเป็นพืชที่ปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ 15 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 45 ล้านรูปี (ราว 18 ล้านบาท) คนหนึ่งเป็นนางแบบจากชัยปุระในรัฐราชสถาน และอีกคนเป็นช่างแต่งหน้าจากเดลี พวกเธอถูกสกัดกั้นระหว่างที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568


“ตามคำกล่าวอ้างของพวกเธอ มีผู้หญิงที่อาจเป็นผู้นำพาถึง 17 คน ในสถานที่ซึ่งพวกเธอพักในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะถูกส่งตัวขึ้นเครื่องบินพร้อมกับสินค้าผิดกฎหมายดังกล่าว ก่อนหน้านี้ เราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีการดำเนินการในการใช้ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลที่ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะถูกสงสัยน้อยลง และด้วยเหตุนี้จึงสามารถหลบซ่อนตัวได้ อาจเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้” แหล่งข่าว จนท. ศุลกากรอินเดีย ระบุ

แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า การตรวจค้นผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นผู้หญิงทำให้ต้องมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้น ถือเป็นความไม่สะดวกอีกประการหนึ่ง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ชายมากกว่าหญิง และนี่อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขบวนการลักลอบขนกัญชาเปลี่ยนแนวทางโดยส่งผู้หญิงเข้ามามากขึ้น โดยผู้ลักลอบขนกัญชาจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการเดินทางแต่ละครั้ง รวมถึงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และอาหาร อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าศุลกากรจะไม่ค่อยเชื่อในค่าตอบแทนที่อยู่ระหว่าง 10,000 - 30,000 รูปี (ราว 4,000 – 12,000 บาท) ซึ่งผู้รับงานจากขบวนการอ้างว่าได้รับค่าตอบแทนสำหรับการเดินทางที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินโคจิสามารถสกัดกัญชาสายพันธุ์ลูกผสมที่ต้องสงสัยได้ประมาณ 15 กรณี โดยมีน้ำหนักรวมประมาณ 30-40 กิโลกรัม ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นศูนย์กลางการลักลอบขนนก สัตว์ และพืชหายากอีกด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถติดตามกัญชาต้องสงสัย 3 กิโลกรัมที่เจ้าหน้าที่สรรพสามิตยึดได้จากคู่สามีภรรยา คือ สุลต่าน อักบาร์ อาลี (Sultan Akbar Ali) และทาสลีมา สุลตานา (Thasleema Sulthana) จากรีสอร์ทแห่งหนึ่งในโอมานาปุซา เมืองอาลาปปุซา โดยสุลต่านให้การว่า ตนนำกัญชาจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย มาเพื่อจำหน่ายในรัฐเกรละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคภาพยนตร์และการท่องเที่ยว โดยมีภรรยาคอยช่วยเหลือ

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า กัญชาสายพันธุ์ผสมเกิดจากการผสมกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และรายงานว่ามีฤทธิ์มากกว่าและมีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีราคาแพงกว่ากัญชาทั่วไปและซื้อขายกันบนเว็บมืดเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายกัญชาลูกผสมยังคงมีความซับซ้อน เนื่องจากฎหมาย NDPS (ยาเสพติดและสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท) ไม่มีหมวดหมู่กัญชาที่แตกต่างกันหรือบทบัญญัติการลงโทษที่แตกต่างกัน

โดยกฎหมายดังกล่าวระบุเพียงกัญชาแบบรวมๆ เท่านั้น และการครอบครองกัญชาน้อยกว่า 1 กิโลกรัมจะจัดอยู่ในประเภทปริมาณเล็กน้อยและสามารถประกันตัวได้ ซึ่งแหล่งข่าวชี้ว่าเอื้อให้มีผู้กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งในกรณีดังกล่าว สำนักงานศุลกากรบันทึกคำให้การของผู้ต้องหารายหนึ่งที่เรือนจำในเมืองโคซิโกเด หลังจากถูกจับกุมในคดียาเสพติดอีกคดีหนึ่งโดยตำรวจการีปุระ

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.thehindu.com/news/national/kerala/women-increasingly-used-as-carriers-of-hybrid-ganja-smuggled-from-bangkok/article69494004.ece

043...

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top