เผยอัตราการเกิดของเด็กในญี่ปุ่นลดลงเร็วกว่าที่คาด ทำโรงเรียนปิดปีละ 450 แห่ง เผยบางแห่งเหลือเพียง 2 คนเท่านั้น ขณะที่ประชากรสูงอายุของประเทศเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นายกฯให้คำมั่นจะใช้มาตรการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อเพิ่มอัตราการเกิด รวมทั้งเพิ่มงบประมาณสองเท่าสำหรับนโยบายเกี่ยวกับเด็ก  ชี้เป็นปัญหาระดับภูมิภาคของเอเชีย

1 เม.ย.66 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราการเกิดในญี่ปุ่นลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้โรงเรียนประมาณ 450 แห่งทั่วประเทศต้องปิดทำการในแต่ละปี โรงเรียนมัธยมในหมู่บ้านบนเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุชิมะก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ทั้งโรงเรียนมีเด็กนักเรียนเหลือเพียง 2 คนเท่านั้น

ข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นระบุว่า โรงเรียนประมาณ 450 แห่งทั่วประเทศต้องปิดการเรียนการสอน ระหว่างปี 2002-2020  ขณะที่ 9,000 แห่งต้องปิดเป็นการถาวร ทำให้เป็นเรื่องยาก ที่จะดึงดูดผู้อยู่อาศัยหน้าใหม่ หรือผู้มีอายุน้อยให้ไปอยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลได้ สาเหตุเกิดจากอัตราการเกิดของญี่ปุ่นลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้การปิดโรงเรียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หมู่บ้าน เท็น-ไอ (Ten-ei) บนภูเขา ในจังหวัดฟูกุชิมะ ที่มีประชากร 5,000 คน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ประสบปัญหาดังกล่าว  โรงเรียนมัธยมศึกษายูโมโตะในหมู่บ้านเหลือนักเรียนเพียง 2 คน คือโฮชิและซาโตะ เนื่องจากผู้คนในหมู่บ้านย้ายออกไป ท่ามกลางอัตราการเกิดลดลง ขณะที่ประชากรสูงอายุของประเทศเพิ่มมากขึ้น เมื่อไม่มีนักเรียนใหม่ โรงเรียนอายุ 76 ปีแห่งนี้ จะปิดการเรียนการสอน หลังจากสิ้นปีการศึกษาในวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 มีนาคม)

โฮชิ ผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นครูอนุบาล บอกว่า เขารู้สึกเศร้าใจ เมื่อรู้ว่าโรงเรียนต้องปิดตัวลง และรู้สึกว่าช่างเปล่าประโยชน์เสียเหลือเกินที่ต้องปิดโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นนี้ ขณะที่มาซูมิ แม่ของซาโตะ ซึ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้เช่นกัน กังวลว่า ผู้คนจะไม่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่ เพื่อเริ่มต้นครอบครัว หากไม่มีโรงเรียนมัธยมในพื้นที่เสียแล้ว

ปัจจุบัน หมู่บ้านเท็น-ไอ มีประชากรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น   ในทศวรรษที่ 1950 หมู่บ้านแห่งนี้เคยมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 10,000 คน ทำการเกษตรและทำงานโรงงาน แต่ความไม่สะดวกและความห่างไกลของพื้นที่ ทำให้ประชาชนย้ายออกไป นอกจากนี้ ประชากรในหมู่บ้านยังลดลงอย่างรวดเร็ว หลังเกิดภัยพิบัติสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 100 กิโลเมตร ประสบปัญหาการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสี

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อัตราการเกิดที่ลดลงเป็นปัญหาระดับภูมิภาคของเอเชีย ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรทำให้อัตราการเกิดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และจีนลดลง แต่สถานการณ์ของญี่ปุ่นนั้นวิกฤติเป็นพิเศษ ด้วยจำนวนการเกิดลดลงต่ำกว่า 800,000 คนในปี 2022 ที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ และเร็วกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ 8 ปี

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ให้คำมั่นว่า จะใช้มาตรการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อเพิ่มอัตราการเกิด รวมทั้งเพิ่มงบประมาณสองเท่าสำหรับนโยบายเกี่ยวกับเด็ก และมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพแวดล้อมทางการศึกษา แต่ถึงขณะนี้ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น-001