คาร์ทูม (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) -ข้อตกลงหยุดยิงรอบใหม่ในซูดานยังไม่เป็นผล ยังคงมีการสู้รบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ด้านซาอุดีอาระเบียนำเรือลำเลียงพลเรือน 1,687 คน จากมากกว่า 50 ประเทศหนีความไม่สงบในซูดานมาถึงซาอุดีอาระเบียแล้ว นับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย
ข้อตกลงหยุดยิงรอบใหม่เป็นเวลา 3 วันในซูดานที่มีสหรัฐฯ เป็นคนกลางซึ่งเริ่มมีผลมาตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ยังไม่เป็นผลเพราะยังมีการสู้รบกันของกองทัพซูดาน และกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว หรืออาร์เอสเอฟนายโวลเกอร์ เพอร์เธส ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ แจ้งต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อวานนี้ว่า การหยุดยิงยังไม่เกิดผลอย่างเต็มที่ยังคงมีการโจมตีสำนักงานต่างๆ และทั้งสองฝ่ายพยายามแย่งกันยึดครองพื้นที่ มีทั้งการโจมตีทางอากาศ และมีระเบิดในพื้นที่หลายจุดของกรุงคาร์ทูม เพอร์เธสกล่าวด้วยว่า ยังคงมีการติดต่อกับผู้บัญชาการกองทัพทั้งสองฝ่ายแต่ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าทั้งคู่พร้อมที่จะเจรจากันอย่างเอาจริงเอาจัง
นอกจากอันตรายจากการสู้รบแล้ว องค์การอนามัยโลกยังเตือนด้วยว่า ซูดานมีความเสี่ยงด้านชีวภาพ เนื่องจากมีกลุ่มนักรบบุกเข้ายึดห้องปฏิบัติการในกรุงคาร์ทูม ซึ่งเป็นที่เก็บตัวอย่างเชื้อโรคหลายอย่าง ทั้ง อหิวาต์ ฝีดาษโปลิโอ และโรคติดเชื้อต่างๆ อีกหลายชนิด ด้านกองกำลังอาร์เอสเอฟโพสต์คลิปวีดีโอในเฟซบุ๊ก อ้างว่าสามารถยึดโรงกลั่นน้ำมันและโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งเอาไว้ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่นานกองทัพซูดานได้ออกมาเตือนว่า อาร์เอสเอฟกำลังฉวยโอกาสในช่วงการหยุดยิงบุกเข้ายึดโรงกลั่นดังกล่าว เวลานี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างว่าสามารถยึดสถานที่ต่างๆ เอาไว้ได้ แต่ยังไม่มีตรวจสอบว่าเป็นจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
รายงานของสหประชาชาติระบุว่า เวลานี้ชาวซูดานกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ไฟฟ้าและเชื้อเพลิง โดยเฉพาะ
ในกรุงคาร์ทูมและพื้นที่โดยสถานการณ์วิกฤตสุด ขณะที่มีรายงานว่าชาวซูดานหลายหมื่นคนพากันอพยพหนีตายเข้าไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสหประชาชาติเตือนว่า ประเทศยากจน อย่างสาธารณรัฐชาดและซูดานใต้ อาจจะต้องรองรับผู้ลี้จากซูดานเป็นจำนวนถึง 270,000 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการสู้รบล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 459 ศพ และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงว่า เรือที่นำพลเรือน 1,687 คน มากกว่า 50 ประเทศหนีความไม่สงบในซูดานได้เดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียแล้ว นับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย พลเรือนกลุ่มนี้ประกอบด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 13 คน และคนจากหลายภูมิภาคทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง จนถึงขณะนี้ซาอุดีอาระเบียได้รับผู้อพยพออกจากซูดานหลายชุดแล้วทั้งทางอากาศและทางทะเลรวมทั้งหมด 2,148 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,000 คนเป็นชาวต่างชาติ เริ่มจากเรือที่นำนักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างชาติประมาณ 150 คน เดินทางมาถึงเมืองเจดดาห์เมื่อวันเสาร์ ส่วนเมื่อวันจันทร์เครื่องบินลำเลียงซี-130เฮอร์คิวลิส ได้นำพลเมืองชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งมาถึงฐานทัพอากาศอับดุลลาห์ในเมืองเจดดาห์ และเรือที่นำคนเกือบ 200 คนจาก 14 ประเทศข้ามทะเลแดงมาจากเมืองพอร์ตซูดานของซูดาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี