เริ่มประชุม : ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียน เปิดประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่เมืองลาบวน บาโจ บนเกาะฟลอเรส ทางตะวันออกของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้อาเซียนมีเอกภาพในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองในเมียนมา
จาการ์ตา (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/สเตรทไทมส์)-ผู้นำอินโดนีเซียเรียกร้องให้ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ผนึกกำลังกันในการคลี่คลายวิกฤตความรุนแรงในเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้มีเอกภาพ ในขณะที่อาเซียนเผชิญกระแสกดดันหนักขึ้นให้ยุติความรุนแรงในเมียนมา
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียนกล่าวในการเปิดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เมืองลาบวน บาโจบนเกาะฟลอเรส ทางตะวันออกของประเทศ ช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนมีเอกภาพ ร่วมแรงร่วมใจในการแก้ไขวิกฤตการเมืองในเมียนมาหลังเกิดการทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งทางรัฐบาลทหารมีการใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงต่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและชนกลุ่มน้อยต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน
ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวด้วยว่า ตนเองมีความมั่นใจว่าสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ สามารถจะแก้ไขปัญหาท้าทายต่างๆ ของโลกได้หากทุกประเทศในอาเซียนมีความร่วมมือกันอย่างจริงจัง และยังจะทำให้อาเซียนมีบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพและส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่ที่ผ่านมาอาเซียนถูกวิจารณ์ว่าไร้เขี้ยวเล็บในการกดดันเมียนมาให้ยุติความรุนแรง แม้ว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วมีการตกลงในฉันทามติ 5 ข้อเพื่อให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติความรุนแรง และเปิดการเจรจากับฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งทุกกลุ่ม แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ด้าน เกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ปัญหาในเมียนมาเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนมากซึ่งทุกฝ่ายไม่ควรคาดหวังว่าการแก้ปัญหาจะเกิดผลสำเร็จในเร็ววันจึงขอให้ทุกฝ่ายใช้ทั้งความพยายามและอดทนในการแก้ปัญหานี้ และยังไม่ควรจะกล่าวว่าฉันทามติ 5 ข้อในการแก้ปัญหา
เมียนมาไม่เป็นผล พร้อมกันนี้ก็บอกด้วยว่าอาเซียนจะเดินหน้าผลักดันให้รัฐบาลทหารเมียนมาเดินหน้าปฏิบัติตามแผนการดังกล่าว ซึ่งเมียนมาจะต้องเปิดการเจรจาร่วมกันทุกฝ่ายโดยมีผู้แทนพิเศษทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย
ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและผู้นำอาเซียนที่อินโดนีเซียระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม จะหาทางทำให้เกิดการปฏิบัติตามแผนฉันทามติ
5 ประการ ที่อาเซียนและเมียนมาเห็นพ้องกันตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 หลังจากความพยายามทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาและฝ่ายต่อต้านเปิดการเจรจาเพื่อยุติความรุนแรง ล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง เมียนมาไม่ได้เข้าร่วมการประชุมแต่ยังคงเป็นสมาชิกอยู่ หลายฝ่ายคาดหวังว่า การที่อินโดนีเซียเป็นประธานอาเซียนปีนี้จะช่วยผลักดันให้เกิดทางออกที่สันติ เนื่องจากอินโดนีเซียมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและมีประสบการณ์ทางการทูต นางเรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่า จะใช้ “การทูตแบบเงียบ” ในการพูดคุยกับทุกฝ่ายในเมียนมา และกระตุ้นให้เกิดความพยายามสร้างสันติภาพครั้งใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี