วันที่ 30 เมษายน 2567 The Diplomat สำนักข่าวออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเน้นนำเสนอเนื้อหาด้านการเมือง สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เผยแพร่บทวิเคราะห์ “Thailand Confirms Former Career Diplomat as New Foreign Minister” ซึ่งเขียนโดย เซบาสเตียน สเตรนจิโอ (Sebastian Strangio) บรรณาธิการแผนกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ The Diplomat ว่าด้วย (ว่าที่) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยคนล่าสุด มาริษ เสงี่ยมพงษ์ (Maris Sangiampongsa) กับการรับมือสถานการณ์สำคัญอย่างการสู้รบในเมียนมา เนื้อหาดังนี้
อดีตนักการทูตอาชีพที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร (Thaksin Shinawatra) ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ามาแทนที่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร (Parnpree Bahiddha-Nukara) ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากที่ ปานปรีย์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ยังไม่ถึง 1 ปี ได้ประกาศลาออกไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2567 เนื่องจากการปรับตำแหน่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด เขาถูกตัดตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ เพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น
ตามประวัติการทำงาน มาริษ เสงี่ยมพงษ์ เคยเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประทศออสเตรเลีย ฟิจิ และเนปาล อีกทั้งในเดือน ก.ย. 2566 ที่ ปานปรีย์ เข้ารับตำแหน่ง รมว. ต่างประเทศ ก็ยังได้แต่งตั้งให้ มาริษ เป็นที่ปรึกษาด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน (Srettha Thavisin) กล่าวเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ว่า ตนได้เลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว. ต่างประเทศคนใหม่ จากบุคคลที่อยู่ในแวดวงการทูตมายาวนาน และยังเคยทำงานอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย
กระทั่งล่าสุด ในวันที่ 30 เม.ย. 2567 สื่อท้องถิ่นจึงรายงานว่า เศรษฐา ได้นำชื่อ มาริษ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย พร้อมด้วยการยืนยันของ มนพร เจริญศรี (Manaporn Charoensri) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงมีรายงานว่า ในวันที่ 29 เม.ย. 2567 มาริษ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารของบริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน)
ตามรายงานของสื่อมวลชนไทย มาริษ เป็นที่รับรู้กันว่ามีความใกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำโดยพฤตินัยของพรรคเพื่อไทย มาตั้งแต่ปี 2537 สมัยที่ ทักษิณ ดำรงตำแหน่ง รมว. ต่างประเทศ ในรัฐบาลที่มี ชวน หลีกภัย (Chuan Leekpai) เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุด ทักษิณกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู หลังจากต่อสู้ทางการเมืองกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมของไทยมานานถึง 15 ปี
สเตรนจิโอ ให้ความเห็นต่อการลาออกของ ปานปรีย์ พหิทธานุกร ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจ เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ปานปรีย์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานด้านมนุษยธรรมและความมั่นคงในกรณีฉุกเฉินกับประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเมียนมา เป็นปัจจัยคุกคามที่จะขัดขวางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ในเมียนมารของไทย ซึ่งได้รับการกระตุ้นจากความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นในรัฐกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนไทย
ย้อนไปในปี 2558 มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ขณะดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำนิวซีแลนด์ เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ชื่นชมการเปิดกว้างทางการเมืองและเศรษฐกิจของเมียนมา และกล่าวชมเชยสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ว่าด้วยนโยบายการมีส่วนร่วมกับรัฐบาลทหารเมียนมาที่ริเริ่มการปฏิรูปในช่วงต้นปี 2553 กระทั่งในเดือน ก.พ. 2564 กองทัพเมียนมาได้กลับมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนอีกครั้ง และเผชิญกับการต่อต้าน ซึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายต่อต้านซึ่งนำโดยกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ได้สู้รบกับกองทัพฝ่ายรัฐบาลทหาร เพื่อชิงเมืองเมียวดี ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยข้ามชายแดนเข้าไทยเป็นการชั่วคราวประมาณ 3,000 คน
“นี่ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อบ่งชี้ว่ามาริษจะใช้นโยบายการมีส่วนร่วมแบบเดียวกันในขณะนี้ ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันมาก และความสมดุลของความน่าจะเป็นบ่งชี้ว่า เขาจะยังคงใช้นโยบายที่มีความสมดุลมากขึ้นที่ริเริ่มไว้ตั้งแต่เศรษฐาเข้ารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ในอดีตของเขาในการจัดการกับเมียนมาจะถูกนำไปใช้อย่างจำกัด ในสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ถดถอยซึ่งมีอิทธิพลนับตั้งแต่รัฐประหาร” สเตรนจิโอ กล่าวทิ้งท้ายในบทความ
ขอบคุณเรื่องจาก
https://thediplomat.com/2024/04/thailand-confirms-former-career-diplomat-as-new-foreign-minister/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/politic/801896 ด่วน!เศรษฐาทูลเกล้าฯ‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’นั่งรมว.ต่างประเทศแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี