มุมไบ (รอยเตอร์ส/ฟอร์บส์) - ธนาคารกลางอินเดียจะเริ่มนำธนบัตร 2,000 รูปี ซึ่งเป็นชนิดราคาสูงที่สุดออกจากระบบ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อาจช่วยให้ธนาคารมีเงินฝากเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีตลาดสินเชื่อขยายตัว
ธนาคารกลางอินเดียแถลงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า มีหลักฐานและข้อมูลสนับสนุนว่า ประชาชนไม่ได้ใช้ธนบัตร 2,000 รูปี ในการทำธุรกรรมโดยทั่วไป ธนบัตรชนิดราคานี้ยังคงชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ขอให้ประชาชนนำมาฝากหรือแลกเป็นธนบัตรชนิดราคาที่ต่ำกว่าภายในวันที่ 30 กันยายนเจ้าหน้าที่กระทรวงคลังอินเดียกล่าวว่าการนำธนบัตร 2,000 รูปี ออกจากระบบจะไม่ก่อความวุ่นวายให้แก่การดำเนินชีวิตประจำวันหรือเศรษฐกิจนักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่า มาตรการนี้อาจช่วยให้ธนาคารมีเงินฝากเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ช่วยลดแรงกดดันเรื่องต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก เนื่องจากธนาคารกำลังมีปัญหาสภาพคล่องตึงตัวจากการที่ตลาดสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วงหลายเดือนมานี้
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นก่อนที่อินเดียจะมีการเลือกตั้งใน 4 รัฐใหญ่ในสิ้นปีนี้และจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศราวเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2024 ทั้งนี้เชื่อกันว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ในอินเดียกำลังกักตุนธนบัตรชนิดราคาสูงสำหรับใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทราโมดี เริ่มใช้ธนบัตร 2,000 รูปี ในปี 2016หลังจากยกเลิกธนบัตร 500 รูปี และ 1,000 รูปี อย่างกะทันหัน หวังขจัดธนบัตรปลอมที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ มาตรการนี้ทำให้มูลค่าเงินสดในระบบหายไปทันทีร้อยละ 86 ในชั่วข้ามคืน รัฐบาลจึงต้องออกธนบัตร 500 รูปีแบบใหม่ในวันรุ่งขึ้น และเร่งนำธนบัตร 2,000 รูปี เข้าสู่ระบบเร็วขึ้น อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นธนาคารกลางอินเดียได้มุ่งพิมพ์ธนบัตรชนิดราคาไม่เกิน 500 รูปีออกมาเป็นหลัก และงดการพิมพ์ธนบัตร 2,000 รูปี มานาน 4 ปีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี