ตำรวจ บก.ปทส.กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB ทลายเครือข่ายค้าลิงอุรังอุตังจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ไทย เพื่อผ่านไปยังประเทศที่สาม
วันนี้ (29 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส. พ.ต.ท.บรรลพ สมพงษ์, พ.ต.ท.จีรศักดิ์ นิมมา สว.กก.5 บก.ปทส.นำกำลังจับกุม 1.นายสมาย์ อายุ 69 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 208/2568 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568 , 2.นายพงศกร อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพรที่ 210/2568 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568 และ 3.นายสุภวัชร อายุ 43 ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.209/2568 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568 ข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เนื่องจากตำรวจ บก.ปทส.ได้รับแจ้งข้อมูลด้านการข่าวจากองค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S.Fish and Wildlife Service(USFWS)) หน่วยงานที่ต่อต้านการค้าสัตว์ป่าทุกชนิด แจ้งว่าจะมีขบวนการลักลอบนำเข้าลิงอุรังอุตังจากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทาง จ.สตูล มุ่งหน้าเข้า กทม.
ต่อมาตำรวจ กก.5 บก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้สกัดรถต้องสงสัย ที่บริเวณปั๊มน้ำมันขาขึ้นถนนสายเอเชีย ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร พบนายวินัย เป็นผู้ขับ ตรวจสอบภายในรถ พบลิงอุรังอุตัง 3 ตัว ชะนี 3 ตัว และกวางป่าอีก 1 ตัว บรรจุอยู่ในลังซุกซ่อนอยู่ภายในรถ จึงจับกุมตัวนายวินัย ในข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปทส.ดำเนินคดี ในชั้นจับกุม นายวินัย รับสารภาพว่าเป็นผู้รับจ้างขนส่ง โดยมีบังแอ (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) เป็นผู้ว่าจ้าง ขนสัตว์ทั้งหมดมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปส่งให้กับนายอ๊อฟ และนายกอล์ฟ ที่ จ.นนทบุรี ได้เงินค่าจ้างขน 25,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล ทราบว่าบังแอ ตามที่นายวินัย อ้างนั้น คือนายสมาย์ ส่วนนายอ๊อฟ คือนายพงศกร และนายกอล์ฟ คือนายสุภวัชร ซึ่งทั้ง 3 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าลิงอุรังอุตังจากอินโดนีเซียจริง โดยบังแอ จะเป็นผู้ลักลอบนำเข้าลิงอุรังอุตังจากอินโดนีเซีย ส่วนนายกอล์ฟ และนายอ๊อฟ จะหาลูกค้าเพื่อนำไปขายต่อ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดชุมพร ออกหมายจับเอาไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าค้นบ้านพักที่หน้าเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ กระทั่งสามารถจับกุมนายสมาย์ ได้ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ส่วนนายกอล์ฟ และนายอ๊อฟ สามารถจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายแอ รับว่ามีนายทุนอีกกลุ่มหนึ่งนำเข้าลิงมาจากประเทศอินโดนีเซีย โดยขนมากับเรือสปีดโบ๊ท ขึ้นที่ท่าในพื้นที่ อ.ละงู แล้วนำมาเก็บไว้ที่ห้องเช่าใน อ.หาดใหญ่ แล้วตนเองจะติดต่อรถขนเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่สั่ง ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายกอล์ฟ กับนายอ๊อฟ ให้การว่าประกอบอาชีพค้าขายสัตว์ป่าหายากให้กับผู้ที่อยากได้ รวมถึงลิงอุรังอุตังในครั้งนี้ด้วย เคยทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง ซื้อมาในราคาตัวละ 70,000 บาท แล้วนำไปขายในราคาตัวละ 120,000 บาท แต่หากลิงถูกขายส่งต่อไปยังประเทศอื่น จะมีราคาอาจสูงถึงตัวละ 250,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลให้ถึงผู้ว่าจ้าง ผู้ซื้อ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา รวมถึงติดตามหานายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ในการนำเข้าสัตว์ป่าจากอินโดนีเซียและลูกค้าที่เคยซื้อสัตว์ป่า โดยของกลางนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัตว์ของกลางให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบและเก็บ DNAใช้เป็นหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศ กรมอุทยานฯ, ศุลกากร, ป.ป.ส.ต่างประเทศ: USFWS, ตำรวจอินโดนีเซีย, Interpol รวมถึงวางมาตรการในการป้องกันเหตุซ้ำ โดยตรวจสอบจุดพักสัตว์ เช่น ห้องเช่าในหาดใหญ่เฝ้าระวังท่าเรือ อ.ละงู และช่องทางออนไลน์ต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจ บก.ปทส.ฝากเตือนภัย ว่าการครอบครองหรือค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกและปรับสูง ลิงอุรังอุตัง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามอนุสัญญา CITES ห้ามนำเข้า-ส่งออกโดยเด็ดขาด การลักลอบขนย้ายสัตว์ป่า เข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ มีโทษรุนแรงทั้งผู้ค้า ผู้ขนส่ง และผู้ซื้อ การมีส่วนร่วม เช่น ให้ที่พัก ซุกซ่อน หรือช่วยเหลือในการขนส่ง ถือว่ามีความผิดร่วมด้วย สัตว์ป่าที่ลักลอบนำเข้าเสี่ยงต่อการแพร่โรคสู่คนและสัตว์ในประเทศ เช่น โรคซาร์ส วัณโรคในลิง หากพบเบาะแสการค้าสัตว์ป่า สามารถแจ้งสายด่วน บก.ปทส. สายด่วน 1136
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี