ทร.ไปช่วยลงงมหาศพ

น้ำไหลเชี่ยวยังเจอแค่14

สลด!พัดไกลเกือบ20กม.

เปิดชื่อ5คนไทยเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีเครื่องบินโดยสาร ATR72-600 หมายเลข RDPD 34233 ของสายการบินลาว ประสบอุบัติเหตุตกลงแม่น้ำโขง ขณะกำลังร่อนลงจอดที่สนามบินเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน นั้น

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว นายยากัว ลอปังกาว หัวหน้ากลุ่มการบินพลเรือน และคณะกู้ภัย แถลงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เครื่องบินมีผู้โดยสารจำนวน 44 คน ลูกเรือ 5 คน รวมเป็น 49 คน โดยผู้โดยสารเป็นคนลาว 17 คน ฝรั่งเศส 7 คน อิตาลี 5 คน ไทย 5 คน เกาหลี 3 คน เวียดนาม 2 คน และอเมริกา จีน ไต้หวัน แคนาดา มาเลเซีย ประเทศละ 1 คน

พบศพแล้ว14ราย-ห่างไป20กม.

นายยากัว กล่าวว่า สภาพเครื่องบินบางส่วนแตกเป็นเศษชิ้นส่วน กระจายอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำโขง ส่วนลำตัวเครื่องบินคาดว่าจะจมอยู่ในแม่น้ำโขง โดยกระทรวงโยธาธิการและขนส่งร่วมกับกองอำนวยการปกครองแขวงจำปาสัก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทย ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันค้นหาศพผู้เสียชีวิต โดยพบศพแล้วจำนวน 14 ราย ซึ่งจุดที่พบศพอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุถึง 20 กม. ส่วนโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตนั้นแทบไม่มีหวัง เพราะลักษณะการเกิดอุบัติเหตุนั้น เครื่องบินตกกระแทกแรงมาก ก่อนจมลงไปในแม่น้ำ ขอให้ผู้อาศัยอยู่ริมแม่น้ำช่วยหาศพอีกแรงหนึ่ง และแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีที่พบเห็นสิ่งที่เกี่ยวข้อง

นายยากัว ระบุว่า สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนเนื่องจากพายุนารี ทำให้นักบินไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดได้ ซึ่งทางการขอแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

คาดบินชนต้นไม้ก่อนจมน้ำ

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้พบเศษซากเครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ ที่ประสบอุบัติเหตุ อยู่บนเกาะพลิง คาดว่าจะเป็นส่วนหางของเครื่อง และจากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเครื่องบินอาจพุ่งชนต้นไม้บนเกาะก่อนไถลลงแม่น้ำ เนื่องจากพบร่องรอยต้นไม้หักโค่น และอาจเกิดไฟไหม้ จนระเบิดเป็นเสี่ยง

รอพิสูจน์สัญชาติผู้เสียชีวิต

ขณะที่ นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ซึ่งเดินทางเข้าไปค้นหาผู้เสียชีวิตพร้อมทีมกู้ภัย เปิดเผยว่า ศพที่ถูกค้นพบอยู่ระหว่างแยกลักษณะของบุคคลเพื่อยืนยันสัญชาติ และต้องทำตามกระบวนการระเบียบของทางการลาว ก่อนนำศพเข้ามาเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เบื้องต้นศพทั้งหมด ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดจีน บ้านโพนสะอาด เมืองปากเซ

คาดใช้เวลาค้นหา2-3วันเหตุน้ำเชี่ยว

ทั้งนี้ คาดว่า การค้นหาศพผู้เสียชีวิตอาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน จึงจะค้นหาได้ครบ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีน้ำไหลแรง เพราะเป็นจุดบรรจบของลำน้ำโขงที่ไหลมาพบกันที่บริเวณหัวเกาะกลางแม่น้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงจุดที่เครื่องบินตก กระจัดกระจายไปด้วยซากใบพัดเครื่องบิน ข้าวของของผู้โดยสารและหนังสือเดินทาง ขณะที่รายละเอียดของเหตุเครื่องบินตกยังคงไม่ชัดเจน

เผยเครื่องบินใหม่เพิ่งใช้แค่7เดือน

กระทรวงโยธาธิการและขนส่งลาว ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลสายการบินลาวแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ยืนยันว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 49 คน ขณะนี้ ยังไม่พบผู้รอดชีวิต โดยเครื่องบินรุ่นATR72-600 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์เทอร์โบพรอพผลิตในฝรั่งเศส มีความจุผู้โดยสาร 68-74 ที่นั่ง

ขณะที่บริษัทATR ผู้ผลิตเครื่องบินรุ่นดังกล่าว แถลงที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศสว่า เครื่องบินลำที่ตกเป็นเครื่องบินใหม่ เพิ่งจะถูกส่งมอบเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และทางบริษัทพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสืบสวนถึงสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างเต็มที่

ลาวประสานไทยเร่งค้นหาศพ

วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. นายคำสอน แสงมาลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของลาวได้เดินทางมาประชุมกับทีมกู้ภัยของไทยที่ด่านสากลช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อสรุปสถานการณ์และการช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนจะนำทีมกู้ภัยของไทยจำนวน 50 คน เป็นนักประดาน้ำ 30 คน และทีมสนับสนุนการปฏิบัติงานบนบกอีก 20 คน พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำและเรือกู้ภัยเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งทีมกู้ภัยคาดว่าต้องใช้เวลาค้นหาศพราว 1-2 วันเพราะสภาพแม่น้ำโขงขณะนี้อยู่ในฤดูน้ำหลาก มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวยากแก่การทำงาน

ทร.ส่งนักประดาน้ำช่วยกู้ซาก

พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษกองทัพเรือประสานกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง(นรข.)จัดเจ้าหน้าที่จำนวน 14 คน ประกอบด้วยผู้บังคับหน่วยผู้ประสานงาน 5 คนและนักประดาน้ำ 9 คนเข้าไปช่วยกู้ซากเครื่องบินและผู้เสียชีวิต โดยประสานกับทาง สปป.ลาว สำหรับระยะเวลาในการปฏิบัติงานยังกำหนดไม่ได้ ซึ่ง ผบ.ทร. ได้กำชับว่าจะต้องอยู่ช่วยจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น

ผู้ช่วยผบ.ตร.-ผบช.สพฐ.ลงพื้นที่

รายงานจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งว่า ในวันที่ 18 ตุลาคม พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ จะมาร่วมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย

เผยรายชื่อ5คนไทยที่เสียชีวิต

สำหรับรายชื่อ 5 คนไทยที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กงสุลสะหวันนะเขต สปป.ลาว ระบุว่าประกอบไปด้วย 1.นายคะนึง ชาติเกษมชัย อายุ 47 ปี 2.นายนิพนธ์ ชัยชนะกุลดี อายุ 27 ปี 3.นายภควัติ อธินรัตนชัย อายุ 50 ปี 4.นายวิกิจ บุษราวุธานุสรณ์ อายุ 38 ปี และ 5.นายบรรยง อาภานันต์ อายุ 29 ปี

“เพ้ง”พร้อมช่วยพนง.ปตท.เต็มที่

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่มีพนักงานของบริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (ปตท.) เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ทราบว่าเป็นพนักงานของ ปตท. 2 คน และอีก 1 คนเป็นผู้รับเหมาที่ไปด้วยกันเพื่อสำรวจแหล่งหลุมขุดเจาะ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเสียชีวิต จึงยังไม่อยากระบุชัด แต่อย่างไรก็ตามขอให้ทาง ปตท.ดูข้อมูลให้ละเอียดก่อนว่าใครเป็นใครแล้วจึงจะดูว่าดูแลครอบครัวเขาอย่างไร ยืนยันว่า ปตท.จะให้การสนับสนุนเต็มที่