เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2566 2566 เว็บไซต์ นสพ. Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เสนอข่าว 'Open minded' Thailand banks on LGBT tourists, 'boys love' exports ระบุว่า แม้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) มานานแล้ว แต่หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวเพิ่งเริ่มโปรโมตกลุ่ม LGBT เมื่อไม่นานมานี้ โดยข้อมูลจาก Out Now Consulting บริษัทวิจัยที่ให้บริการด้านการตลาดสำหรับเกย์แก่บริษัทขนาดใหญ่ ชี้ว่า นักท่องเที่ยว LBGT ใช้จ่ายประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 7 ล้านล้านบาท ทั่วโลกต่อปี
เศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละ 2.7 ในไตรมาสแรกของปี 2566 จากปีก่อนหน้า และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 3.6 ตลอดทั้งปี ซึ่งสำหรับประเทศไทย ย้อนไปในยุคสมัยก่อนไวรัสโควิด-19 ระบาด ภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของสัดส่วนเศรษฐกิจทั้งประเทศ ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดสำหรับกลุ่ม LGBT ซึ่งรวมถึงการจัดโร้ดโชว์ที่กำหนดเป้าหมายชุมชน LGBT ในยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา
ในปี 2566 หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวได้ให้การสนับสนุนงาน Pride (กิจกรรมการแสดงออกเพื่อสนับสนุนสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ) ในหลายพื้นที่ เช่น ภูเก็ต พัทยา ประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจตลอดเดือนมิถุนายนด้วยขบวนพาเหรด คอนเสิร์ต และกิจกรรม LGBT อื่นๆ รวมถึงมีผู้คนหลายพันคนจากทั่วโลกเข้าร่วมในขบวนพาเหรด Bangkok Pride ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 4 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
ชาวต่างชาติไม่ได้มาเพียงเพื่อชมขบวนพาเหรด การสำรวจของ ททท. พบนักท่องเที่ยวหลายคนเป็นนักเดินทางระยะไกลที่มักใช้เวลาหลายวันในจุดหมายปลายทางที่มีการจัดงานที่พวกเขาต้องการเข้าร่วม นอกจากนั้น บรรดาผู้มีฐานะดีก็นิยมเข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย เนื่องจากมีมาตรฐานสูงแต่อยู่ในราคาที่ไม่แพงมากนัก ทำให้ภาคการแพทย์ของไทยก็กำลังดำเนินการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ LGBT จากเอเชียและที่อื่นๆ
ในปี 2564 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย ได้เปิดคลินิกที่ให้บริการทางการแพทย์และสุขภาพแบบบูรณาการแก่ชุมชน LGBT ตั้งแต่การรักษาด้วยฮอร์โมนไปจนถึงการรักษาที่ยอมรับเพศสภาพ โดย นภัส เปาโรหิตย์ (Napas Paorohitya) Chief Marketing Officer รพ.บำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ร้อยละ 70 ของผู้มาใช้บริการเป็นคนไทย ส่วนชาวต่างชาตินั้นมีทั้งมาจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา บังกลาเทศ ออสเตรเลีย จีน เวียดนาม และสิงคโปร์ คลินิกยังส่งเสริมการบริการในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน ซึ่งเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ของเราที่มีอำนาจการใช้จ่ายสูง
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามในการสำรวจของ ททท. ให้ความเห็นว่า บริการทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นไปที่ชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศช่วยให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่เป็นมิตร อีกทั้งประเทศไทยยังได้ชื่อว่าอยู่ระดับแถวหน้าของการศัลยกรรมแปลงเพศ นั่นบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับความเปิดกว้าง โดยข้อมูลจาก สมาคมระหว่างประเทศว่าด้วยศัลยกรรมพลาสติกเสริมความงาม (The International Society of Aesthetic Plastic Surgery) ยังชี้ว่า อุตสาหกรรมเสริมความงามและการรักษาเสริมความงามทางเพศของไทยมีมูลค่า 36,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 15-20 ต่อปี
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จาก “ซอฟท์เพาเวอร์ (Soft Power) ที่เกี่ยวข้องกับ LGBT มากขึ้นประเทศนี้ได้กลายเป็นผู้สร้างละคร “ชายรักชาย” รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย อย่างในปี 2565 ที่ผ่านมา ยอดส่งออกซีรีส์และภาพยนตร์รักโรแมนติกทะลุ 1.5 พันล้านบาท โดย รัชดา ธนาดิเรก (Ratchada Thanadirek) รองโฆษกรัฐบาลไทย กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปี 2566 กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานจับคู่ธุรกิจที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ผลิตเนื้อหาชายรักชายของไทยได้พบปะพูดคุยกับผู้นำเข้าจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ซึ่งสามารถสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ 158 ราย และคาดว่าจะนำไปสู่การส่งออกเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBT กว่า 3,600 ล้านบาท
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี