เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เสนอข่าว More China EV Makers Eye Thailand as Production Base, Group Says อ้างการเปิดเผยของ ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล (Narongsak Putthapornmongkol) ประธานหอการค้าไทย-จีน ที่ระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ของจีนกำลังมองไทยเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าส่งไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง EV เป็นอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเวลานี้ เห็นได้จากการลงทุนจาก MG, Great Wall Motor และ BYD
ค่ายรถยนต์แดนมังกรอย่าง Great Wall Motor และ BYD Co. ได้ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วใน จ.ระยอง ทางภาคตะวันออกของไทย ขณะที่ Hozon New Energy Automobile Co. จะเริ่มเปิดสายการผลิตในประเทศไทยสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ภายในปี 2567 โดยจะกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายล่าสุดที่เริ่มสร้างห่วงโซ่อุปทานในศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชั้นนำของภูมิภาค ด้าน Chongqing Changan Automobile และ GAC Aion ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่ารวม 16,200 ล้านบาท (470 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับตั้งโรงงานในไทย
หอการค้าไทย-จีน กำลังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้ประกอบการจีนโลกครั้งที่ 16 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. 2566 มีผู้ประกอบการประมาณ 4,000 รายจาก 50 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งรวมถึงนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง อาทิ หลี่ชูหยวน (Li Chuyuan) ประธานบริษัท Guangzhou Pharmaceutical Holdings และ หุยหยวน (Hui Yuan) ประธานบริษัท Xiao i Corporation เป็นต้น
ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ประเทศไทยมีคำขอลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า เป็น 155,300 ล้านบาทใน 3 เดือนแรกของปี 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 นำโดยบริษัทจากเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และจีน โดยบริษัทสัญชาติจีนพยายามลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 จากปีก่อนหน้า ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิตแบตเตอรี่ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี และเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์
จรีพร จารุกรสกุล (Jareeporn Jarukornsakul) CEO ของ WHA Corp บริษัทพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย กล่าวว่า นักลงทุนชาวจีนน่าจะฟื้นตัวขึ้นจากอุปสงค์ที่มาจากบริษัทที่ตั้งหน่วยเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 มีแนวคิดขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ณรงค์ศักดิ์ เตือนว่า แม้ค่าจ้างขั้นต่ำรายวันควรปรับขึ้นเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น แต่ก็ไม่ควรปรับขึ้นเกินไปกว่าฐานเงินเดือนในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งถือเป็นคู่แข่งของไทย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี