26 มิถุนายน 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการอียิปต์ประกาศใช้กฎห้ามครอบครองสุนัขอันตราย 16 สายพันธุ์แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุสุนัขพิทบูลอาละวาดกัดเจ้าของจนเสียชีวิต โดยเจ้าของสุนัขจะต้องมอบสุนัขที่เข้าข่ายอันตรายแก่สัตวแพทย์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 1 เดือนหลังการประกาศใช้กฎหมายใหม่ ซึ่งมีการจัดกลุ่มสุนัขสายพันธุ์ที่เป็นอันตราย ไว้ อาทิ พิทบูท เทอร์เรีย, ร็อตไวเลอร์, โดเบอร์แมน, เยอรมันเชพเพิร์ด, อากิตะ, อเมริกันบูลลี, อลาสกัน มาลามิวท์ หรือแม้แต่ไซบีเรียน ฮัสกีและอื่น ๆ ซึ่งจะมีเพียง 10 สายพันธุ์เท่านั้นที่ถูกจัดว่าเป็นสุนัขที่ “ไม่อันตราย” คือ สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน, ลาบราดอร์, ซามอยด์, ค็อกเกอร์ สแปเนียล, พุดเดิล, มาลินอยส์, แจ๊ค รัสเซล, เกรทเดน, มอลทีส และ ไวท์ เชพเพิร์ด

โมฮัมเหม็ด ริซค์ เจ้าของสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ที่เลี้ยงมันมาถึงสิบปี แสดงความคิดเห็นว่า บัญชีสุนัขอันตรายที่รัฐบาลจัดทำขึ้นนั้น มันผิด และเขาคิดว่า คนจัดทำน่าจะไม่เคยเห็นสุนัขจริงๆ กฎหมายที่ผ่านไปแล้ว โชคร้ายที่มันถูกเขียนขึ้นโดยคน ในความคิดผมนะ คนที่ไม่เคยเห็นสุนัขมาก่อน ผมคิดว่า เขาไม่เคยเห็นสุนัข การตัดสินใจว่าสุนัขพันธุ์ไหนต้องถูกแบนมันผิด การรับมือกับสถานการณ์มันผิด ผมไม่เห็นว่ามันมีอะไรถูกต้องเลยในกฎหมายนี้ สิ่งเดียวที่ดีที่ผมเห็นก็คือ มันมีการระบุโทษของคนที่ใช้สุนัขเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนตามท้องถนน ไม่ควรมีใครมีสุนัข และใช้มันเป็นอาวุธ

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของสุนัขครอบครองสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีใบอนุญาตที่แสดงว่าปลอดภัยจะมีโทษปรับราว 323 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 11,000 บาท หรือ มีโทษจำคุกกรณีสุนัขที่มีไว้ในครอบครองทำร้ายผู้อื่น

ทั้งนี้ กลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขในอียิปต์ได้อกมาเคลื่อนไหวถึงความไม่พอใจต่อกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากทุกคนเลี้ยงสุนัขราวกับลูกของตนคงไม่มีทางที่จะยอมปล่อยให้สุนัขของพวกเขาต้องถูกยึดไป จึงได้เรียกร้องให้เปลี่ยนกฎหมายนี้โดยมุ่งเป้าควบคุมการฉีดวัคซีนในสุนัขและการใส่สายจูงในที่สาธารณะแทน