21 ก.ย. 2566 The Evening Standard นสพ.ท้องถิ่นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เสนอข่าว Poland to stop supplying weapons to Ukraine over grain dispute อ้างการเปิดเผยของ มาเทอุส โมราเวียซกี (Mateusz Morawiecki) นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 ว่า โปแลนด์จะยุติการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครน แต่จะหันมาเน้นเสริมความแข็งแกร่งในด้านดังกล่าวให้กับชาติของตนเองแทน
โปแลนด์เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งขันที่สุดของยูเครนนับตั้งแต่เริ่มทำสงครามรับมือการรุกรานของรัสเซีย แต่ความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ชาติเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากโปแลนด์ ฮังการี และสโลวาเกียขยายขอบเขตการห้ามนำเข้าธัญพืชของยูเครนอย่างไม่มีเหตุผลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรในท้องถิ่น นอกจากนั้น ในกรณีของโปแลนด์ คาดว่ามาจากการที่ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) ประธานาธิบดียูเครน ไปพูดในเวทีประชุมสหประชาชาติ ว่านโยบายเรื่องธัญพืชเป็นเพียงละครทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือรัสเซีย
หลังคำกล่าวของผู้นำยูเครน โปแลนด์ประท้วงด้วยการเรียกทูตยูเครนประจำโปแลนด์เข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของยูเครนเรียกร้องให้หาทางคลี่คลายข้อพิพาท ทั้งนี้ โปแลนด์ สโลวาเกีย และฮังการี ประกาศควบคุมการนำเข้าธัญพืชจากยูเครนเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2566 หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปตัดสินใจไม่ขยายการห้ามขายไปยัง 5 รัฐในสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงโรมาเนียและบัลแกเรีย
การห้ามดังกล่าวถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องเกษตรกรจากการนำเข้าธัญพืชและอาหารที่เพิ่มขึ้นจากยูเครน หลังจากการรุกรานของรัสเซียได้ปิดกั้นเส้นทางของยูเครนผ่านท่าเรือทะเลดำเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของโปแลนด์ เผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่า พาเวล จาบลอนสกี (Pawel Jablonski) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของโปแลนด์ ประท้วงอย่างรุนแรงต่อคำพูดของผู้นำยูเครน ที่ไปกล่าวว่ามีบางประเทศใน EU แสร้งทำเป็นสามัคคีแต่ลับหลังก็แอบช่วยรัสเซียแบบอ้อมๆ
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ยังระบุด้วยว่า รมช.จาบลอนสกี กล่าวกับ วาซิล ซวาริช (Vasyl Zvarych) เอกอัคราชทูตยูเครนประจำโปแลนด์ ว่า การกดดันโปแลนด์ในเวทีพหุภาคีหรือการส่งข้อร้องเรียนไปยังเวทีระหว่างประเทศนั้นไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศของเรา ขณะที่ โอเล็ก นิโคเลนโก (Oleg Nikolenko) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอเรียกร้องให้เพื่อนชาวโปแลนด์ละทิ้งอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา ยูเครนได้เสนอแนวทางที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาธัญพืช
นิโคเลนโก ยังกล่าวด้วยว่า ทูตยูเครนอธิบายจุดยืนของพวกเขาในเรื่องการยอมรับไม่ได้ของการห้ามโปแลนด์ และการเสนอแนะข้อเสนอของเคียฟจะกลายเป็นพื้นฐานสำหรับการย้ายการเจรจาไปสู่แนวทางที่สร้างสรรค์ ขณะที่ทูตยูเครน ยังเน้นย้ำถึง “ความไม่ถูกต้อง” ของคำพูดของประธานาธิบดีโปแลนด์ อันด์เซจ์ ดูดา (Andrzej Duda) ที่ว่ายูเครนควรจำไว้ว่ายูเครนได้รับความช่วยเหลือจากโปแลนด์ และยังเปรียบเทียบว่ายูเครนก็เหมือนคนจมน้ำ
ฟลอริน บาร์บู (Florin Barbu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของโรมาเนีย กล่าวว่่า รัฐบาลโรมาเนียทำงานร่วมกับยูเครนในอีก 30 วันข้างหน้าเกี่ยวกับแผนควบคุมการส่งออกธัญพืชเพื่อช่วยปกป้องเกษตรกรชาวโรมาเนีย ด้านโฆษกองค์การการค้าโลก (WTO) ยืนยันเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 ว่า ยูเครนได้ดำเนินการขั้นตอนแรกในข้อพิพาททางการค้าโดยการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อหน่วยงานการค้าโลก โดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศต่างๆ แม้ว่าเคียฟเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าการร้องเรียนมุ่งเป้าไปที่โปแลนด์ สโลวาเกียและฮังการี
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 ยูเครนยังระบุด้วยว่าจะบังคับใช้มาตรการตอบโต้การนำเข้าสินค้าบางประเภทจากโปแลนด์และฮังการี หากพวกเขาไม่ยกเลิกการสั่งห้ามฝ่ายเดียว แต่นายกฯ โมราเวียซกี ของโปแลนด์ ก็ได้ออกมาตอบโต้ว่า ตนขอเตือนทางการยูเครน เพราะหากพวกเขาเพิ่มความขัดแย้งด้วยวิธีนี้ โปแลนด์จะเพิ่มรายชื่อสินค้าห้ามนำเข้ามาในดินแดนของโปแลนด์
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.standard.co.uk/news/world/ukraine-russia-war-poland-weapons-ban-grain-mateusz-morawiecki-un-b1108469.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี