เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ รายงานข่าว Malaysia boosts China palm oil exports as EU calls for ban of products from deforested land ระบุว่า มาเลเซียจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังจีนอีก 5 แสนตันต่อปี เพื่อชดเชยตลาดสหภาพยุโรป (EU) ที่หายไป เนื่องจาก EU ได้ออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อต่อสู้กับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ
การผลิตน้ำมันปาล์มถูกบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่าเป็นการทำลายป่าฝนในมาเลเซีนและอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 2 ชาติ มีผลผลิตน้ำมันปาล์มรวมกันร้อยละ 85 ของผลผลิตดังกล่าวทั่วโลก และแน่นอนว่าทั้ง 2 ชาติก็ได้ประท้วงมาตรการดังกล่าวของ EU กระทั่งล่าสุด ฟาดิลลาห์ ยูซอฟ (Fadillah Yusof) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซียกำลังเพิ่มการส่งออกไปจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่
“การนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์จากปาล์มของจีนจากมาเลเซียอยู่ที่ 3.14 ล้านตันในปี 2565 ซึ่งจะเติบโตภายในสิ้นปี 2566 หรือต้นปี 2567 โดยปักกิ่งจะรับน้ำมันปาล์มเพิ่มเติม 500,000 ตัน การเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากข้อตกลงระหว่างบริษัทผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม Sime Darby Oils International ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย และ Guangxi Beibu Gulf International Port Group ที่เป็นของรัฐจีน มันจะช่วยมาเลเซียในการตอบโต้การควบคุมของยุโรปอย่างแน่นอน” ยูซอฟ กล่าว
ยูซอฟ ยังกล่าวอีกว่า ผู้นำเข้าของจีนกำลังซื้อผลิตภัณฑ์ปาล์มขั้นปลายที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งผลิตจากมาเลเซีย โดยถูกนำมาใช้ในอาหาร เช่น เค้ก ช็อคโกแลต และมาการีน รวมถึงเครื่องสำอาง สบู่ และแชมพู ซึ่งคาดว่าการส่งออกน้ำมันปาล์มของมาเลเซียไปยังประเทศจีนจะอยู่ที่ 3.2 ล้านตันในปี 2566 ถึงกระนั้นก็ยืนยันว่า มาเลเซียไม่ต้องการละทิ้งตลาดยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียเป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย และแซงหน้าจีนที่เป็นอันดับ 3 เพียงเล็กน้อย แต่ก็ตำหนิกฎระเบียบดังกล่าวว่าเป็นอุปสรรคทางการค้าที่จำกัดการเข้าถึงตลาดอย่างเสรีและไม่เลือกปฏิบัติ
“มาเลเซียยังคงหวังว่าจุดยืนของกลุ่มนี้จะพัฒนาไปตามกาลเวลา ซึ่งทางการมาเลเซียและอินโดนีเซียกำลังเจรจากับ EU อย่างแข็งขันเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งจะยังไม่มีผลบังคับใช้เต็มที่เป็นเวลา 18 เดือน เพื่อให้ผู้ผลิตมีเวลาในการปฏิบัติตาม ตัวแทนจากทั้ง 2 ประเทศมีกำหนดพบกับเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อหารือใหม่ในเดือน ธ.ค. 2566” ยูซฮฟ ระบุ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี