ผ่อนปรนวีซ่าได้ผล! สื่อจีนเผยยอดชาวแดนมังกรค้นหาทัวร์มาเมืองไทยพุ่ง
28 ก.ย.2566 สถานีโทรทัศน์ CGTN ในเครือ CCTV ของจีน เสนอข่าว China's outbound tourism set for big surge ahead of Golden Week holidays ระบุว่า การเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวจีนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงวันหยุด "สัปดาห์ทอง (Golden Week)" วันหยุดยาวที่คาบเกี่ยวระหว่างเทศกาลไหว้พระจันทร์กับการฉลองวันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสัปดาห์ทองประจำปี 2566 จะกินเวลา 8 วันตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.-6 ต.ค. 2566พบมียอดจองทัวร์เพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 ตามรายงานที่เผยแพร่โดย Ctrip บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้ให้บริการการเดินทาง
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งการขยายกลุ่มทัวร์ขาออกและนโยบายวีซ่าที่ผ่อนคลายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวขาออก
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค. 2566 ทางการจีนได้ประกาศกลับมาให้บริการทัวร์หมู่คณะขาออก (กรุ๊ปทัวร์) รอบที่ 3 อีกครั้งใน 78 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อินเดีย และประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ โดยขยายขอบเขตจาก 60 ประเทศเป็น 138 ประเทศและภูมิภาค
หน่วยงานให้บริการวีซ่า VFS Global ปิดเผยว่า มียอดจองการยื่นขอวีซ่าไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 โดย ณ เดือน พ.ค. 2566 พบการยื่นขอวีซ่าจากชาวจีนถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบปี 2562 อันเป็นปีสุดท้ายก่อนโลกต้องเผชิญสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 หน่วยงานยังคาดว่าความต้องการขอวีซ่าจะยังคงสูงตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวชาวจีนหลายร้อยคนที่เดินทางถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ได้รับการต้อนรับแบบวีไอพีเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2566 โดยมี เศรษฐา ทวีสิน (Srettha Thavisin) นายกรัฐมนตรีของไทย รอต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกที่มาถึง ตามข้อกำหนดในการขอวีซ่าได้รับการยกเว้นสำหรับชาวจีน เนื่องจากประเทศดำเนินนโยบายปลอดวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเริ่มในวันที่ 25 ก.ย. 2566
หลังการประกาศดังกล่าว การค้นหาตั๋วเครื่องบินไปประเทศไทยและโรงแรมบนแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนพุ่งสูงขึ้นทันที กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตเป็นหนึ่งในสามจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ตามข้อมูลจาก Mafengwo ผู้ให้บริการการท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของจีน
เมื่อกลางเดือน ก.ย 2566 ปริมาณการจองโรงแรมในประเทศไทยในช่วงวันหยุดวันชาติจีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6,220 เเมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลจาก Trip.com Group บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ของจีน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อีกด้านหนึ่ง การฟื้นตัวของภาคการเดินเรือจะมีบทบาทในตลาดการท่องเที่ยวของจีนที่เฟื่องฟู อาทิ เรือสำราญลำหนึ่งที่จดทะเบียนในบาฮามาสจอดเทียบท่าที่ท่าเรือสำราญนานาชาติเทียนจินเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2566 ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเรือของเมืองอย่างมีความหวัง และก่อนหน้านั้นในเดือน ก.ค. 2566 เรือสำราญอีกลำที่จดทะเบียนในไลบีเรีย ซึ่งมีห้องโดยสารมากกว่า 1,000 ห้อง และสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 2,000 คน ก็เทียบท่าในเมืองเช่นกัน
ท่าเรือบ้านสำราญนานาชาติเทียนจินเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของจีน โดยได้รับเรือสำราญนานาชาติมากกว่า 880 ลำ และรองรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออกมากกว่า 4.26 ล้านคน นับตั้งแต่เปิดให้สาธารณชนเข้าใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2553
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า แนวโน้มใหม่ในตลาดการท่องเที่ยวขาออกบ่งชี้ว่า แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนเมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความเป็นส่วนตัว สุขภาพ และความเป็นส่วนตัว ยังคงชอบกลุ่มเล็กๆ ที่ปรับแต่งได้ จำนวนไม่เกิน 10;คน โดย โจวเว่ยหง (Zhou Weihong) รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนำเที่ยวสปริงทัวร์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเดินทางมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นนวัตกรรมและเชิงประสบการณ์กำลังได้รับความนิยม
เช่นเดียวกับ เจน ซุน (Jane Sun) ซีอีโอของ Trip.com กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างมองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าดื่มด่ำมากกว่าปีที่ผ่านมา ข้อมูลแสดงให้เห็นการซื้อทัวร์กรุ๊ปส่วนตัวและการจองสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เช่น ศรีลังกา และอุซเบกิสถาน เพิ่มขึ้น ผู้ให้บริการการเดินทางกล่าว
“เราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อบริการคุณภาพสูงและประสบการณ์การเดินทางเชิงลึก นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่สำรวจจุดหมายปลายทางยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังแสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงและแปลกใหม่อีกด้วย" ซุน กล่าว
ขอบคุณเรื่องจาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี