ญี่ปุ่นปล่อยน้ำผ่านการบำบัดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะรอบ 2
5 ต.ค.66 สำนักข่าวเอเอฟพี/รอยเตอร์/เอ็นเอชเครายงานว่า ญี่ปุ่นเริ่มการปล่อยน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะรอบที่ 2 เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เร่งสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของอาหารทะเลหลังจีนสั่งระงับการนำเข้า
โฆษกของบริษัทไฟฟ้าโตเกียว หรือเทปโก เผยว่า เริ่มการปล่อยน้ำเมื่อเวลา 10.18 น.วานนี้ (5 ต.ค.) ตามเวลาญี่ปุ่น ตรงกับเวลา 08.18 น.วานนี้ตามเวลาไทย เป็นการปล่อยน้ำทิ้งรอบที่ 2 หลังจากปล่อยรอบแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมและเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน และจะปล่อยในปริมาณ 7,800 ตันเช่นเดียวกับรอบแรก จากน้ำทั้งหมด 1.34 ล้านตันที่สะสมอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิซัดเตาปฏิกรณ์เสียหายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554
น้ำเหล่านี้เป็นน้ำที่ใช้หล่อเย็นแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ภายในโรงไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วซึ่งเก็บเอาไว้ในถังจำนวน 10 ถังภายในโรงไฟฟ้า จะใช้เวลาปล่อยน้ำในรอบสองนี้รวมทั้งสิ้น 17 วัน ขณะที่คาดว่า การปล่อยน้ำทิ้งทั้งหมดต้องใช้เวลาหลายทศวรรษจึงจะเสร็จสิ้น สำหรับการปล่อยน้ำในรอบที่ 3 นั้นกำหนดเอาไว้ในเดือนปลายเดือนมีนาคมปีหน้าจำนวนกว่า 31,000 ตัน
เทปโกยืนยันว่า น้ำทิ้งผ่านการกรองสารกัมมันตรังสีทั้งหมดออกแล้ว ยกเว้นทริเทียมที่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย สาเหตุที่ต้องปล่อยน้ำเพราะต้องการเคลียร์ถังเก็บน้ำทิ้งออกจากโรงไฟฟ้า เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายเชื้อเพลิงกัมมันตรังสีอันตรายและซากความเสียหายที่ยังอยู่ภายในโรงไฟฟ้า และย้ำว่าอาหารทะเลและสินค้าเกษตรของญี่ปุ่นมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่จากญี่ปุ่นที่ตอบโต้ด้วยการสั่งระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นโดยมีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีการปล่อยน้ำวันแรกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และมีรายงานว่ารัสเซียกำลังพิจารณาห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นเช่นกัน ทำให้ผู้ส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนัก รัฐบาลญี่ปุ่นต้องจัดสรรงบฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกในการหาตลาดใหม่และรับซื้ออาหารทะเลมาแช่แข็งเอาไว้ชั่วคราว
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีประมงของญี่ปุ่นเดินทางไปเยือนมาเลเซียเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมอาหารทะเลของประเทศ อย่างไรก็ตาม มาเลเซียไม่มีการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ขณะที่ไทยเราก็ไม่มีการห้ามนำเข้าเช่นกัน แต่ทางสำนักงานอาหารและยาหรือ อย.ของไทย ระบุว่ามีการตรวจเข้มอาหารทะเลจากญี่ปุ่นมากเป็นพิเศษ หากพบว่ามีสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานก็จะเรียกคืนและสั่งห้ามนำเข้าทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี