‘โมฮัมเหม็ด เดอิฟ’ผู้นำ‘ฮามาส’เบื้องหลังโจมตี ‘อิสราเอล’ บุคคลลึกลับที่ไม่เคยมีภาพปรากฏในสื่อ

10 ต.ค. 2566 สถานีโทรทัศน์ Sky News ของอังกฤษ เสนอรายงานพิเศษ Who is Mohammed Deif? The shadowy Hamas commander known as 'The Guest' ว่าด้วยประวัติเท่าที่พอหาได้ของ โมฮัมเหม็ด เดอิฟ (Mohammed Deif) ซึ่งแม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำคนปัจจุบันของกลุ่มฮามาส กองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวในนามปาเลสไตน์ทำสงครามกับอิสราเอล แต่ไม่เคยมีภาพใบหน้าของคนผู้นี้หลุดออกมาสู่ภายนอกผ่านสื่อต่างๆ แม้สักครั้งเดียว

โมฮัมเหม็ด เดอิฟ ซึ่งบางคนก็ตั้งฉายาให้ว่า “ผู้มาเยือน (The Guest)” หรือ “แมว 9 ชีวิต (The Cat With Nine Lives)” ซึ่งฉายาหลังนี้มาจากเรื่องเล่าว่า บุคคลผู้นี้สามารถหลุดรอดจากการลอบสังหารของกองทัพอิสราเอลได้หลายต่อหลายครั้ง ส่วนฉายาแรก นอกจากคำว่า “เดอิฟ (Deif)” ในชื่อของเขาที่ในภาษาอาหรับแปลว่าแขกหรือผุ้มาเยือนแล้ว ยังสะท้อนพฤติกรรมของตัวเขาที่จะไม่อยู่ที่ใดเป็นเวลานานเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแกะรอย

ไม่กี่ชั่วโมงหลังการโจมตีอิสราเอลครั้งล่าสุดอย่างไม่คาดคิดของฮามาส เดอีฟก็ปรากฏตัวในข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ โดยประกาศการเริ่มต้นของสิ่งที่เขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพายุอัลอักซอพายุ (Operation Al Aqsa Storm)" และเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์เข้าร่วมการต่อสู้ เขากล่าวว่านี่เป็นการตอบโต้การปิดล้อมฉนวนกาซานาน 16 ปี, การโจมตีของอิสราเอลในเมืองต่างๆ ในเขตเวสต์แบงก์ในปีที่ผ่านมา, ความรุนแรงที่อัลอักซอ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเลมในฐานะพื้นที่พิพาท , การโจมตีโดยผู้ตั้งถิ่นฐาลชาวอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ และการเพิ่มขึ้นของชาวอิสราเอล

เดอิฟ เข้าร่วมกลุ่มฮามาสราวปี 2533 และเรียนรู้ทักษะการทำระเบิดภายใต้การดูแลของ เยห์ยา อัยยาช (Yehya Ayyash) นักประดิษฐ์ระเบิดชื่อดังที่มีฉายาว่า “วิศวกร (Engineer)” เดอิฟถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา และต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของชาวอิสราเอลหลายสิบคน อีกทั้งยังถูกอ้างว่าเป็นผู้พัฒนาเครือข่ายอุโมงค์ที่ซับซ้อนในดินแดนฉนวนการซา รวมถึงเป็นผู้ออกแบบ “กัสซัม (Qaasam)” เครื่องยิงจรวดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลุ่มฮามาส แหล่งข่าวของกลุ่มฮามาสซึ่งรู้จักเดอีฟมาตั้งแต่ปี 2533 เล่าว่า เดอิฟเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาภายในของกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2537

ในปี 2545 เดอิฟ ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากองพลน้อยกัสซัม (Qassam Brigades) ซึ่งเป็นหน่วยทหารของกลุ่มฮามาส แทนหัวหน้าคนก่อนที่ถูกกองทัพอิสราเอลลอบสังหาร อดีตผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสซึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อปี 2557 มองว่า การทำตัวลึกลับจนไม่เคยมีภาพหลุดออกมาผ่านสื่อใดๆ คือปัจจัยความสำเร็จของเดอิฟ คนผู้นี้ทำตัวติดดินเหมือนคนธรรมดาทั่วๆ ไป แฝงกายในฝูงชน เดินทางไปยังที่ต่างๆ ด้วยเอกสารระบุตัวตนในชื่อที่แตกต่างกัน และนั่นคือเหตุผลว่าเหตุใดคนคนนี้จึงยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงทัศนคติที่แข็งกร้าวของเดอิฟต่ออิสราเอลก็ถูกมองว่าเป็นการสะท้อนถึงผลประโยชน์ของชาวปาเลสไตน์อย่างชอบธรรม

โมฮัมเหม็ด เดอีฟ ถูกจัดเป็นบุคคลอันตรายที่อิสราเอลต้องการตัวมาตั้งแต่ปี 2538 และรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร ถึงกระนั้น ว่ากันว่าเขาได้รับบาดเจ็บเป็นอัมพาตบางส่วนและต้องใช้รถเข็น รวมถึงมีรายงานว่าอาจสูญเสียดวงตาและแขนไปหนึ่งข้างจากการถูกโจมตี ทั้งนี้ ในปี 2557 การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่เดอีฟ ส่งผลให้ภรรยาของเขาและลูกสองคนเสียชีวิต ตามรายงานของสื่ออิสราเอล กองทัพยังคงพยายามหาทางลอบสังหารเดอิฟ นอกจกาอิสราเอลแล้ว สหรัฐอเมริกา ก็ต้องการตามล่า เดอิฟ เช่นกัน

ชื่อเต็มของโมฮัมเหม็ด เดอิฟ คือ โมฮัมเหม็ด ดิอัป อิบราฮิม อัล มาสรี (Mohammed Diab Ibrahim al Masri) เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย ข่าน ยูนิส (Khan Younis) ในช่วงทษวรรษ 1960s (ปี 2503-2512) ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร ในวัยหนุ่มได้เข้าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอิสลามกาซา และเคยเป็นหนึ่งในคณะละคร “เหล่าผู้หวนคืน (The Returnees)” อาวี เมลาเหม็ด (Avi Melamed) ผู้เชี่ยวชาญตะวันออกกลางที่สถาบันไอเซนฮาวร์ กล่าวว่า เดอิฟ ยังคงแสดงต่อไปหลังจากเข้าร่วมกลุ่มฮามาส ซึ่งบางครั้งก็มีส่วนร่วมในวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อ

ครั้งสุดท้ายที่เสียงของ เดอิฟ ปรากฏต่อสาธารณะ คือในปี 2564 เมื่อเขาเตือนอิสราเอลว่าจะค้องจ่ายด้วยราคามหาศาล หากไม่ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มฮามาสเหนือกรุงเยรูซาเล็ม จากนั้นในช่วง 11 วันแห่งความขัดแย้งที่ตามมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 250 รายในฉนวนกาซา และ 13 รายในอิสราเอล ซึ่งครั้งนั้นเป็นการเผยแพร่เสียงของเขาเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี

ขอบคุณเรื่องจาก https://news.sky.com