เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 นสพ.Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เสนอข่าว Thailand's new World Heritage site faces overtourism pitfalls ระบุว่า อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ โบราณสถานจากอาณาจักรทวารวดีซึ่งเจริญรุ่งเรืองในช่วงราวศตวรรษที่ 6-10 (ปี พ.ศ.500-999) ซึ่งเพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อเดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 156,000 คน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากเดือน ส.ค. 2566
แม้จะไม่สามารถเยี่ยมชมได้สะดวกเพราะต้องเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ แต่การที่ผู้คนแห่กันไปท่องเที่ยวยังมรดกโลกแห่งใหม่นี้ แสดงให้เห็นความสนใจอย่างมากต่อวัดวาอารามและประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียโบราณ ดังที่นักท่องเที่ยววัย 39 ปี จาก จ.ชลบุรี ซึ่งพาสมาชิกในครอบครัวรวม 11 คน เดินทางมาเที่ยว กล่าวว่า ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ (ในพื้นที่) อุทยานแห่งนี้มีประวัติอันยาวนาน
ปัจจุบันนัก่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่ในอนาคตแห่งนี้น่าจะดึงดูดผู้มาเยือนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้เยี่ยมชมสถานที่อื่นๆ ของไทยที่ UNESCO รับรองเป็นมรดกโลกแล้ว เช่น เมืองประวัติศาสตร์อยุธยา และเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย
รายงานของสื่อญี่ปุ่น ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นคือ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ขาดโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ถังขยะไปจนถึงที่จอดรถ และตามข้อมูลของหน่วยงานท้องถิ่น ยังพบว่า บางส่วนของอุทยานต้องถูกปิดหลังจากที่นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปบนซากโบราณสถาน ความสนใจที่เพิ่มขึ้นยังเพิ่มความเสี่ยงที่โบราณวัตถุจะถูกขโมย
สื่อในประเทศไทยรายงานโดยอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญ ว่าการรักษาแหล่งมรดกโลกนั้นยากกว่าการได้รับการรับรอง ซึ่งทางการไทยเน้นย้ำเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนกลางกับท้องถิ่นและสมาชิกในชุมชน ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ประเทศไทย การจัดการกับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เช่นกัน
ดังตัวอย่างของ อินโดนีเซีย มีความพยายามรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยของมังกรโคโมโดที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยผ่านการควบคุมจำนวนผู้มาเยือน แต่แผนการปรับขึ้นค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นที่อยู่ของกิ้งก่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 25 เท่า ทำให้เกิดการตอบโต้จากรัฐบาลท้องถิ่นและชุมชนที่กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในที่สุดรัฐบาลกลางอินโดนีเซียก็ล้มเลิกการขึ้นค่าธรรมเนียม
“การขึ้นทะเบียนของ UNESCO อาจช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ความล้มเหลวในการจัดการการท่องเที่ยวอาจส่งผลเสียต่อมูลค่าของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อุทยานศรีเทพจะทดสอบความสามารถของประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” รายงานของสื่อญี่ปุ่น กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี