ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/ซีซีทีวี) - หลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีจีน หัวใจวายเฉียบพลันเมื่อช่วงกลางดึกวันพฤหัสบดี และถึงแก่อสัญกรรมเช้าตรู่วานนี้ หลังแพทย์พยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ จากไปในวัย 68 ปี
อดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง วัย 68 ปี เกิดอาการหัวใจวายกะทันหันเมื่อคืนวันพฤหัสบดีขณะพักผ่อนอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้มานานหลายวัน เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที คณะแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ หลี่ถึงแก่อสัญกรรมที่เซี่ยงไฮ้เมื่อเวลา 00.10 น. ย่างเข้าสู่วันที่27 ตุลาคม การประกาศการมรณกรรมของหลี่ เค่อเฉียง จะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเพียงกล่าวแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของหลี่ เค่อเฉียง
เว็บไซต์เว่ยโป๋ของจีน มีการติดแฮชแท็กที่เชื่อมโยงกับการถึงแก่อสัญกรรมของเขา มีผู้เข้าชมมากกว่า 1,000 ล้านครั้งในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง พร้อมกับร่วมแสดงความอาลัยถึงการจากไป โดยบางคนระบุว่า หลี่ทำงานอย่างหนัก และอุทิศตนอย่างมากให้กับจีน เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เขาจากไปก่อนวัยอันควร ด้าน แอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้ เช่นเดียวกับ นิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงปักกิ่ง ก็กล่าวแสดงความเสียใจถึงครอบครัวของหลี่, รัฐบาลจีน และประชาชนชาวจีนด้วย ส่วนสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศจีน ก็ได้กล่าวแสดงความอาลัยผ่านเว่ยโป๋ และชี้ว่า หลี่ที่เคยเยือนญี่ปุ่นในปี 2018 ได้แสดงบทบาทที่สำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
อดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เป็นหัวหน้ารัฐบาลจีนมานาน 10 ปีตั้งแต่ปี 2013 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เขาเพิ่งเกษียณอายุราชการในเดือนมีนาคมปีนี้ เขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำจบการศึกษาจากมหาวิทยาปักกิ่ง ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว ครั้งหนึ่งเคยถูกมองเป็นคู่แข่งของประธานาธิบดีสีในการขึ้นเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลี่เริ่มการทำงานในสันนิบาตเยาวชนพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทาและเขาเคยถูกคาดการณ์ว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนที่นายหู แต่ท้ายที่สุดแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีน มีมติเอกฉันท์ให้สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคแทน
หลี่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจระดับสูงของจีนนานนับทศวรรษ อีกทั้งยังนำพาประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกก้าวผ่านความท้าทายมากมาย ทั้งเรื่องความตึงเครียดกับสหรัฐฯ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 เขาเคยเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2011 พบกับ คิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือในขณะนั้น หลี่กระตุ้นให้เกาหลีเหนือปรับปรุงสัมพันธ์กับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ซึ่งขณะนั้นกำลังเกิดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี จากการที่เกาหลีเหนือต้องการมีอาวุธนิวเคลียร์ การยิงทดสอบขีปนาวุธ และการเผชิญหน้ากันระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้
หลี่ได้รับเลือกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติจีน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจีนในปี 2013 สืบแทน เวิน เจียเป่า แต่นายกฯ หลี่ และประธานาธิบดีสี ก็มีความเห็นที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่องอย่างเปิดเผย
หลี่เป็นที่จดจำจากคำพูดที่เขากล่าวในปี 2020 ว่า ชาวจีนมากกว่า 600 ล้านคนมีรายได้ต่ำกว่า 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 5,000 บาท)คำพูดของเขานี้ ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี