วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
15 พฤศจิกายน 2566 นสพ.The Japan Times ของญี่ปุ่น เสนอข่าว Heat projected to kill nearly five times more people by 2050 ระบุว่า The Lancet Countdown เผยแพร่รายงานประจำปี 2566 ซึ่งเป็นการประเมินประจำปีครั้งสำคัญที่ดำเนินการโดยนักวิจัยและสถาบันชั้นนำ ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดในทศวรรษต่อๆ ไปเกือบ 5 เท่า และหากไม่มีการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สุขภาพของมนุษยชาติจะตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรง โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักวิจัยเตือนว่า ภัยแล้งที่พบบ่อยมากขึ้นจะทำให้ผู้คนหลายล้านคนเสี่ยงต่อการอดอยาก ยุงที่แพร่กระจายไปไกลกว่าในอดีตจะเป็นพาหะนำโรคติดเชื้อไปด้วย และระบบสุขภาพจะต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับภาระดังกล่าว โดยการประเมินอันเลวร้ายนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คาดว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เพียงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบบติดตามสภาพอากาศของยุโรปประกาศว่า เดือน ต.ค. 2566 เป็นเดือนตุลาคมที่อบอุ่นที่สุดเป็นประวัติการณ์
รายงานของ The Lancet Countdown ถูกเผยแพร่ก่อนการเจรจาเรื่องสภาพภูมิอากาศของ COP28 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงปลายเดือน พ.ย. 2566 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่จะเป็นเจ้าภาพ "วันสุขภาพ" ในวันที่ 3 ธันวาคม เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญพยายามให้ความกระจ่างเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่มีต่อสุขภาพ รายงานยังชี้ด้วยว่า แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้มีการดำเนินการทั่วโลกมากขึ้น แต่การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานก็พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา เห็นได้จากเงินอุดหนุนของภาครัฐและเงินลงทุนจากธนาคารเอกชนที่ยังสูง
ในปี 2565 ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่เป็นอันตรายถึงชีวิตโดยเฉลี่ย 86 วัน ประมาณร้อยละ 60 ของวันเหล่านั้นเกิดขึ้นมากกว่าสองเท่าเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่ผู้สูงอายุ หมายถึงประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ที่เสียชีวิตจากอากาศร้อนจัด เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 85 เมื่อเทียบระหว่างช่วงปี 2534-2543 กับช่วงปี 2556-2565
มารินา โรมาเนลโล (Marina Romanello) ผู้อำนวยการบริหารของ The Lancet Countdown กล่าวว่า ผลกระทบที่เราเห็นในวันนี้อาจเป็นเพียงสัญญาณเริ่มต้นของอนาคตที่อันตรายมาก และหากไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเน้นเรื่องสุขภาพมากขึ้นในการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็เสี่ยงที่จะเป็นเพียงคำพูดที่ว่างเปล่า
ภายใต้สถานการณ์ที่โลกร้อนขึ้น 2 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษ ซึ่งขณะนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 2.7 องศาเซลเซียส การเสียชีวิตจากความร้อนต่อปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 370 ภายในปี 2593 หรือเพิ่มขึ้นถึง 4.7 เท่า ตามการคาดการณ์ ผู้คนอีกประมาณ 520 ล้านคนจะประสบกับความไม่มั่นคงทางอาหารในระดับปานกลางหรือรุนแรงในช่วงกลางศตวรรษ และโรคติดเชื้อที่มียุงเป็นพาหะจะยังคงแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ การศึกษาพบว่าการระบาดของโรคไข้เลือดออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ภายใต้สถานการณ์ภาวะโลกร้อน 2 องศาเซลเซียส
ในขณะเดียวกัน เมืองมากกว่า 1 ใน 4 ที่สำรวจโดยนักวิจัย พวกเขากังวลว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเกินความสามารถในการรับมือ หนึ่งในนั้นคือสมาชิกทีมวิจัยอย่าง จอร์เจียนา กอร์ดอน-สตราชาน (Georgiana Gordon-Strachan) ผู้มีบ้านเกิดอยู่ในประเทศจาไมกา ที่เล่าว่า ที่นั่นกำลังเผชิญสถานการณ์โรคไข้เลือดออกระบาด และขณะนี้เรากำลังเผชิญวิกฤติที่อยู่บนยอดของวิกฤติ (crisis on top of a crisis)
“ผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศยากจน ซึ่งมักมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด กลับต้องเผชิญกับผลกระทบด้านสุขภาพอย่างรุนแรง แต่สามารถเข้าถึงเงินทุนและความสามารถทางเทคนิคได้น้อยที่สุดในการปรับตัวให้เข้ากับลมพายุที่แรงขึ้น ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น และความแห้งแล้งของพืชผลที่เหี่ยวเฉา ซึ่งแย่ลงจากภาวะโลกร้อน” จอร์เจียนา กล่าว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อันโตนิโอ กูเตร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ ให้ความเห็นภายหลังรายงานของ The Lancet Countdown ถูกเผยแพร่ ว่า มนุษยชาติกำลังจ้องมองไปที่อนาคตที่ไม่อาจยอมรับได้ เรากำลังเห็นหายนะของมนุษย์ที่เกิดขึ้นแล้ว สุขภาพและการดำรงชีวิตของผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกต้องตกอยู่ในอันตรายจากอากาศร้อนที่ทำลายสถิติ ความแห้งแล้งที่พืชผลล้มเหลว ระดับความหิวโหยที่เพิ่มขึ้น โรคติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงพายุและน้ำท่วมที่มีความรุนแรง
ดานน์ มิทเชลล์ (Dann Mitchell) ประธานด้านอันตรายจากสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า คำเตือนด้านสุขภาพที่เป็นหายนะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ไม่สามารถโน้มน้าวรัฐบาลชาติต่างๆ ทั่วโลก ให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากพอที่จะหลีกเลี่ยงเป้าหมายแรกของข้อตกลงปารีสที่ 1.5 องศาเซลเซียส ขณะที่ องค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2566 ว่า คำมั่นสัญญาของประเทศต่างๆ ในปัจจุบันจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลกเพียงร้อยละ 2 ภายในปี 2573 จากระดับปี 2562 ซึ่งยังต่ำกว่าที่ลดลงร้อยละ 43 ที่จำเป็นในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.japantimes.co.jp/environment/2023/11/15/climate-change/heat-kill-five-times-2050/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี