ตำรวจไอร์แลนด์คุมเข้มป้องกันจลาจลซ้ำ

ดับลิน - ไอร์แลนด์ส่งกำลังตำรวจประจำการทั่วกรุงดับลิน ป้องกันการเกิดเหตุจลาจลซ้ำ หลังจากเกิดเหตุจลาจลที่มีสาเหตุจากเหตุคนร้ายใช้มีดทำร้ายคนหน้าโรงเรียนที่ทำให้มีเด็กบาดเจ็บล่าสุดแถลงยืนยัน สถานการณ์โดยรวมมีเสถียรภาพ ใจกลางกรุงดับลินเปิดทำธุรกิจตามปกติ ประชาชนสามารถเข้ามาได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก่อนหน้านี้ช่วงคืนวันพฤหัสบดี กลุ่มเยาวชนได้รวมตัวกันบนถนนโอคอนเนลล์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของไอร์แลนด์ แล้วเริ่มก่อความรุนแรง วางเพลิงยวดยาน และปล้นชิงข้าวของตามร้านค้า นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ระบุว่า เป็นเหตุรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ทำให้ประเทศอับอาย เขาจะใช้กฎหมายลงโทษผู้ก่อจลาจลสถานหนัก ขณะที่ตำรวจโทษว่า เป็นการกระทำของกลุ่มเสียสติที่มีแนวคิดขวาจัด และได้จับกุมผู้ก่อจลาจลไปจำนวนหนึ่ง เหตุจลาจลเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุเด็ก 3 คน ผู้ใหญ่ 2 คน ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายใช้มีดทำร้ายคนหน้าโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง เด็กหญิงวัย 5 ขวบคนหนึ่งอาการสาหัส ตำรวจระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 50 ปีเศษ ซึ่งสื่อรายงานในเวลาต่อมาว่าเป็นผู้อพยพชาวแอลจีเรีย ทำให้ผู้คนไม่พอใจบุกฝ่าแนวกั้นจุดเกิดเหตุของตำรวจ ตามด้วยการวางเพลิงรถโดยสารและรถราง และการปล้นชิงข้าวของตามร้านค้า

แทงตำรวจจุดกระแส BLM

นิวยอร์ก – หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐฯ รายงานว่า เดเรค เชาวิน อดีตตำรวจที่จุดกระแสรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับคนผิวดำในสหรัฐฯ หรือ Black Lives Matter ขึ้นมาอีกครั้งในปี 2563 ถูกแทงในห้องขังเมื่อวันศุกร์ ที่เรือนจำทูซอน รัฐแอริโซนา เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการกู้ชีพในเบื้องต้น และจะส่งผู้ต้องขังที่บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น เพื่อรับการรักษาและประเมินต่อไป เชาวิน วัย 47 ปี ในปัจจุบัน ใช้เข่ากดคอ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำวัย 46 ปี ในปี 2563 บนถนนสายหนึ่งในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา โดยกดอยู่นานกว่า 9 นาที ทั้งที่ฟลอยด์ร้องบอกว่าหายใจไม่ออกก่อนเสียชีวิต เชาวินถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา, ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเพราะไม่ระมัดระวัง, และความผิดฐานการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถูกตัดสินจำคุก 22 ปี 6 เดือน ผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในเดือนมิถุนายนปีนี้ระบุว่า ตำรวจเมืองมินนิโซตาใช้กำลังและเหยียดผิวอยู่เสมอ รวมถึงการใช้กำลังถึงตายอย่างไร้ความชอบธรรม

เลื่อนช่วย 41 คนงานติดอุโมงค์อินเดีย

นิวเดลี - เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดีย แถลงเมื่อวันเสาร์ (25 พ.ย.) ว่า ความหวังที่จะช่วยเหลือคนงานชาย 41 คนที่ติดอยู่ในอุโมงค์ทางหลวงรัฐอุตตราขัณฑ์ เกือบ 2 สัปดาห์ ต้องพังทลายลงจากปัญหาเครื่องมือขุดเจาะ แต่ความพยายามที่จะเข้าไปให้ถึงคนงาน จะเริ่มต้นอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยหวังจะเสร็จสิ้นการเจาะในช่วงดึกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ต้องระงับชั่วคราว หลังจากแท่นที่วางเครื่องได้รับความเสียหาย และต่อมา ท่อเหล็กก็ไปติดอยู่กับเครื่องเจาะ ทำให้ต้องประกอบกลับเข้าไปใหม่ เจ้าหน้าที่โครงการอุโมงค์ระดับสูง กล่าวว่า กองเศษซากหินและดินเหลืออยู่ประมาณ 15 เมตร ก็จะเจาะทะลุ และการศึกษาโดยใช้เรดาร์เจาะภาคพื้นดิน แสดงให้เห็นว่าไม่มีสิ่งกีดขวางที่เป็นโลหะในอีก 5 เมตรข้างหน้า คนงานก่อสร้างจากหลายรัฐที่ยากจนที่สุดของอินเดีย ติดอยู่ในอุโมงค์ความยาว 4.5 กิโลเมตรในรัฐอุตตราขัณฑ์ ตั้งแต่พังถล่มในช่วงเช้าวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พวกเขามีความปลอดภัย และสามารถเข้าถึงแสงสว่าง ออกซิเจน อาหาร น้ำ และยารักษาโรค