เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว 2023 was world's hottest year on record, EU scientists confirm อ้างการเปิดเผยของ คาร์โล บูออนเทมโป (Carlo Buontempo) ผู้อำนวยการ หน่วยบริการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโคเปอร์นิคัส (C3S) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านภูมิอากาศของสหภาพยุโรป (EU) ที่ระบุว่า ปี 2566 เป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติย้อนหลังไปถึงปี 2493 เมื่อตรวจสอบกับบันทึกข้อมูลภูมิอากาศดึกดำบรรพ์จากแหล่งต่างๆ เช่น วงแหวนต้นไม้และฟองอากาศในธารน้ำแข็ง และคาดว่าอาจเป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 1 แสนปีที่ผ่านมาด้วย
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเหตุการณ์สำคัญนี้ หลังจากที่บันทึกสภาพอากาศถูกทำลายหลายครั้ง โดยพบว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2566 ทุกเดือนถือเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนๆ ทั้งนี้ เฉลี่ยในปี 2566 โลกมีอุณหภูมิอุ่นกว่าในช่วงก่อนอุตสาหกรรมปี 2393-2443 ถึง 1.48 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์เริ่มเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลในระดับอุตสาหกรรม โดยสูบคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ
ประชาคมโลกเห็นพ้องในข้อตกลงปารีสปี 2558 ว่าพยายามป้องกันไม่ให้ภาวะโลกร้อนเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส (2.7 องศาฟาเรนไฮต์) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งนานาชาติก็ไม่ได้ฝ่าฝืนเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิโลกเฉลี่ย 1.5 องศาเซลเซียสตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่ C3S กล่าวว่า อุณหภูมิที่เกินระดับดังกล่าวเกือบครึ่งหนึ่งของปี 2566 ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่เลวร้าย
ศ.เฮย์ลีย์ ฟาวเลอร์ (Prof.Hayley Fowler) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ปีที่ทำลายสถิตินี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งความเร็วของการเปลี่ยนแปลงในโลกการเมืองและความตั้งใจที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริงไม่สอดคล้องกับความเร็วของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภาวะโลกร้อนที่รุนแรง
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า แม้เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลและบริษัทต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้น แต่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงสูงอย่างดื้อรั้น การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกจากการเผาไหม้ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 โดยข้อมูลจาก C3S พบว่า ในปี 2566 ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่บันทึกไว้ที่ 419 ส่วนในล้านส่วน
นอกจากนี้ ปี 2566 ยังเป็นปีแรกที่ทุกวันมีอุณหภูมิร้อนกว่าก่อนยุคอุตสาหกรรมมากกว่า 1 องศาเซลเซียส นับเป็นครั้งแรกที่ 2 วันในเดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิอุ่นขึ้น 2 องศาสเซลเซียส กว่าในช่วงก่อนอุตสาหกรรม ซึ่ง บูออนเทมโป กล่าวว่า ปี 2566 ร้อนกว่าปี 2559 ที่ 0.17 องศาเซลเซียส โดยปี 2559 เคยเป็นปีที่ร้อนที่สุดในสถิติก่อนหน้านี้ อนึ่ง นอกจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์แล้ว อุณหภูมิในปี 2566 ยังได้รับแรงหนุนจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนิโญ ซึ่งทำให้น้ำผิวดินในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบ คืออากาศที่ร้อนจัดในปี 2566 เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะโลกร้อนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ ซึ่ง ซาแมนธา เบอร์เจสส์ (Samantha Burgess) รอง ผอ. C3S กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนเฟสหรือจุดเปลี่ยน หรือเป็นปีที่อบอุ่นผิดปกติ ก็ต้องใช้เวลาและการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจ
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิแต่ละส่วนทำให้ภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่ทำลายล้างรุนแรงขึ้น ในปี 2023 ดาวเคราะห์ที่ร้อนกว่านี้ได้ก่อให้เกิดคลื่นความร้อนร้ายแรงจากจีนไปยังยุโรป ฝนตกหนักสุดขีดซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คนหลายพันคนในลิเบีย และเป็นฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดของแคนาดา ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็ทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน สหรัฐอเมริกาประสบภัยพิบัติด้านสภาพภูมิอากาศและสภาพอากาศอย่างน้อย 25 ครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภัยแล้งได้ทำลายพืชผลถั่วเหลืองในอาร์เจนตินาและข้าวสาลีในสเปน
เฟรเดอริเก อ็อตโต (Friederike Otto) นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ องค์กรวิจัยระดับนานาชาติด้านการระบุแหล่งที่มาของสภาพอากาศโลก (World Weather Attribution) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ของอุณหภูมิโลกที่เทียบเคียงได้นั้นส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คนและระบบนิเวศ ทุกๆ 10 องศามีความสำคัญ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี