เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2567 นสพ.China Daily ของจีน เสนอข่าว Italy approves bigger fines for 'eco vandals' targeting artworks ระบุว่า รัฐสภาอิตาลีผ่านร่างกฎหมายเพิ่มโทษผู้ก่อความเสียหายแก่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยการประชุมเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น มีมติรับรองร่างแก้ไขกฎหมาย เพิ่มค่าปรับจากเดิมซึ่งอยู่ที่ 1,500-15,000 ยูโร (ราว 57,000-570,000 บาท) แต่กฎหมายใหม่ ในกรณีทำลายอนุสาวรีย์ จะมีโทษปรับสูงสุด 4 หมื่นยูโร (ราว 1.5 ล้านบาท) แต่หากเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โทษปรับสูงสุดจะอยู่ที่ 6 หมื่นยูโร (เกือบ 2.3 ล้านบาท)

ที่มาของการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว สืบเนื่องจากอิตาลีต้องเผชิญกับการจัดกิจกรรมชุมนุมประท้วงด้านสิ่งแวดล้อม มีการพ่นสีทำลายอนุสาวรีย์ อาคารและงานศิลปะ เช่น น้ำพุเทวี (Trevi Fountain) หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงโรม ซึ่งอยู่มาตั้งแต่ปี 2305 , พาลาซโซ เวคคิโอ (Palazzo Vecchio) อาคารที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 (ปี 1743-1842) ถูกใช้เป็นศาลาว่าการเมืองฟลอเรนซ์ , โรงอุปรากร ลา สกาลา (La Scala) ในเมืองมิลาน ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2321 เป็นต้น ทั้งนี้ เงินค่าปรับจะถูกนำไปใช้ทำความสะอาดและบูรณะสิ่งก่อสร้างหล่านั้นได้

เจนนาโร ซังกิเลียโน (Gennaro Sangiuliano) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลี กล่าวหลังทราบว่าร่างกฎหมายฉบับใหม่ผ่านสภา ว่า วันนี้เป็นวันที่สวยงามสำหรับวัฒนธรรมอิตาลี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมรดกทางศิลปะและสถาปัตยกรรมของประเทศ ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งตามแนวนโยบายรัฐบาลอิตาลีชุดปัจจุบัน ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีหญิง จอร์เจีย มาโลนี (Giorgia Meloni) ที่มีแนวคิดแบบฝ่ายขวา เช่น เพิ่มมาตรการเอาผิดคดีที่ผู้กระทำผิดเป็นเด็กหรือเยาวชน ผู้อพยพที่ไม่ปกติ และผู้จัดงานปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงหลุดโลก เพื่อจัดระเบีบบสังคมให้มีความสงบเรียบร้อย

เว็บไซต์นิตยสาร Wanted in Rome สื่อท้องถิ่นในกรุงโรมของอิตาลี เสนอข่าว Italy approves tough new law against 'eco-vandals' ระบุว่า ร่างกฎหมายเพิ่มโทษผู้ทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ถูกเสนอโดย เจนนาโร ซังกิเลียโน รมว.วัฒนธรรมของอิตาลี ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2566 ก่อนจะผ่านการพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ม.ค. 2567 ด้วยคะแนน 138 เสียง โดยมีผู้ไม่เห็นชอบ 92 เสียง และงดออกเสียง 10 เสียง

“วันนี้เป็นวันที่สวยงามสำหรับวัฒนธรรมอิตาลี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมรดกทางศิลปะและสถาปัตยกรรมของประเทศ นับจากนี้ไป ใครก็ตามที่สร้างความเสียหายต่อภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมและมรดกจะถูกบังคับให้ชดใช้ค่าใช้จ่าย ของค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูผลงานให้เสร็จจากกระเป๋าของตัวเอง" ซังกิเลียโน กล่าว

ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.chinadailyasia.com/article/372414
https://www.wantedinrome.com/news/italy-approves-new-cultural-heritage-law.html

ขอบคุณภาพจาก : www.ananda.co.th