เคียฟ/มอสโก (เอพี/รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) – ครบรอบ 2 ปีสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นสงครามนองเลือดที่สุดในยุโรปนับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อต่างชาติมองว่า เป็นช่วงเวลาที่ยูเครนอยู่ในสภาพเปราะบางและอ่อนแออย่างที่สุด เพราะขาดแคลนทั้งกำลังพลและกองทัพในการรับมือรัสเซีย

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เป็นวันครบรอบ 2 ปีที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ประชากร 40 ล้านคนของประเทศอดีตบริวารสหภาพโซเวียตแห่งนี้สามารถต้านทานรัสเซียได้เหนือความคาดหมาย ไม่ถูกกองกำลังรัสเซียที่มีขนาดใหญ่กว่ายึดได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ หลังจากรถถังและกำลังพลรัสเซียมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟ อย่างไรก็ดีในขณะที่สงครามย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ความช่วยเหลือของประชาคมโลกเริ่มชะลอตัวลง กระทบต่อปฏิบัติการรุกโต้กลับช่วงฤดูร้อนของยูเครนที่กำลังระส่ำระสาย ขณะที่รัสเซียกำลังเดินหน้ายึดครองดินแดน รัสเซียมีประชากรมากพอที่จะทดแทนทหารที่ล้มตายและมีงบประมาณกลาโหมขนาดใหญ่ แต่ยูเครนอยู่ในสภาพบ้านเมืองเสียหาย บ้านเรือนถูกทำลายบางส่วนหรือทั้งหมด 2 ล้านหลัง ประชาชนเกือบ 6 ล้านคนหนีออกนอกประเทศ ทหารเหนื่อยล้า เครื่องกระสุนร่อยหรอ และถูกรัสเซียระดมถล่มรายวันด้วยขีปนาวุธและโดรน

ขณะที่วานนี้ ผู้นำชาติตะวันตก 4 คน คือ นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา นายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ เดอ โคร ของเบลเยียม และนางอัวร์ซูลาฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปของสหภาพยุโรปหรืออียู เดินทางข้ามคืนด้วยรถไฟจากโปแลนด์ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านไปยังยูเครน เพื่อให้กำลังใจยูเครนในช่วงเวลาสำคัญ นางฟอน แดร์ไลเอิน โพสต์ X ว่า เดินทางมากรุงเคียฟเพื่อแสดงความยินดีที่ชาวยูเครนสามารถยืนหยัดต้านทานได้อย่างดีเยี่ยม และเพื่อยืนเคียงข้างยูเครนอย่างมั่นคงทั้งทางการเงิน เศรษฐกิจ การทหาร และกำลังใจ จนกว่ายูเครนจะเป็นอิสระในที่สุด

เป็นที่คาดว่า ผู้นำอิตาลีและแคนาดาจะลงนามข้อตกลงความมั่นคงกับประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน เช่นเดียวกับที่ยูเครนเพิ่งลงนามข้อตกลงมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐกับฝรั่งเศสกับเยอรมนี ส่วนความช่วยเหลือมูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ รับปากจะจัดสรรให้ยูเครน ขณะนี้ยังค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก

สำนักข่าวรอยเตอร์สชี้ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้สหรัฐฯ อาจได้ประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะเปลี่ยนนโยบายที่มีต่อยูเครนและการทำสงครามกับรัสเซีย ขณะที่รัสเซียจะยังคงมีประธานาธิบดีคนเดิมคือ วลาดีมีร์ปูติน เพราะคาดกันว่าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่15-17 มีนาคมนี้ เขาจะกวาดชัยชนะถล่มทลายจากการทำสงครามยูเครน

ผลการศึกษาของธนาคารโลกชี้ว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจยูเครนอาจต้องใช้เงินเกือบ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 18 ล้านล้านบาท) ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียยังสามารถต้านทานมาตรการคว่ำบาตรที่มากเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัวได้ร้อยละ 3.6 ในปี2566 แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ในรัสเซียบางคนเตือนว่าเป็นการขยายตัวเพราะการใช้จ่ายด้านสงคราม และเศรษฐกิจใกล้จะหยุดชะงักหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย