สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกกราดยิงในคอนเสิร์ตฮอลล์แห่งหนึ่งของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งอาคารถูกเผาวอด
กลุ่มคนร้ายซึ่งแต่งกายด้วยชุดลายพรางบุกเข้าไปในอาคาร, เปิดฉากยิง และขว้างระเบิดมือหรือระเบิดเพลิงใส่ฝูงชน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วทั่วอาคารแสดงคอนเสิร์ต 'โครคัส ซิตี' ในย่านชานเมืองคราสโนกรอสค์ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก
ผู้ประสบเหตุที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่า ผู้คนต่างกรีดร้องหลังได้ยินเสียงปืน และวิ่งหนีตายอลหม่านท่ามกลางเปลวไฟและควันดำปกคลุมอาคาร
หน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 รายและบาดเจ็บมากกว่า 100 คน โดยการบาดเจ็บส่วนใหญ่มาจากการสำลักควันและการเหยียบกันบริเวณทางออกฉุกเฉินของอาคารแสดงคอนเสิร์ต
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำถูกเรียกมาช่วยเหลือในการดับไฟ โดยการทิ้งระเบิดน้ำลงบนอาคารขนาดยักษ์ที่จุคนได้หลายพันคนและเป็นที่ต้อนรับศิลปินชั้นนำระดับโลก ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถดับได้ทั้งหมด หลังเที่ยงคืนไม่นาน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า คนร้ายจำนวนระหว่าง 2-5 คน ซึ่งสวมเครื่องแบบทางยุทธวิธีและถืออาวุธอัตโนมัติ ได้เปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้าอาคาร จากนั้นจึงเริ่มยิงใส่ฝูงชนในอาคารดังกล่าว หลายคนสามารถหลบหนีออกมาได้ผ่านทางชั้นใต้ดิน ขณะที่บางส่วนหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณที่นั่งติดหลังคา
หลังเกิดเหตุ มีชาวมอสโกจำนวนมากที่ทราบข่าว ได้เดินทางมายังอาคารแห่งนี้ เพื่อตามหาเพื่อน, ญาติ และสมาชิกในครอบครัวที่มาชมคอนเสิร์ตและเผชิญเหตุร้าย โดยที่ยังไม่สามารถติดต่อกันได้
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า นี่คือการโจมตีของผู้ก่อการร้ายกระหายเลือด "ประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมดต้องประณามอาชญากรรมที่น่ารังเกียจนี้" เธอกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประณามการโจมตีดังกล่าว และยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ว่ามีความเชื่อมโยงกับความขัดแย้งในยูเครน
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว โดยเชื่อว่ารัฐบาลมอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีและสร้างเรื่องเพื่อให้เกิดประเด็นพุ่งเป้ามายังยูเครน
กลุ่ม Freedom of Russia Legion ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนยูเครนและรับผิดชอบการโจมตีบริเวณชายแดนของรัสเซีย ก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการกระทำครั้งนี้เช่นกัน
สหภาพยุโรป, ฝรั่งเศส, สเปน และอิตาลี ออกแถลงการณ์ร่วมกับหลายประเทศประณามเหตุโจมตีดังกล่าว และเชื่อว่าเป็นการก่อการร้าย
ล่าสุด กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกแถลงการณ์เสมือนกล่าวอ้างความรับผิดชอบว่า นักรบของกลุ่มได้ลงมือโจมตีสถานที่ที่มีการรวมตัวจำนวนมากในเขตชานเมืองมอสโก จากนั้นได้ถอยกลับไปยังฐานทัพของพวกเขาอย่างปลอดภัย
ที่ผ่านมา มอสโกและเมืองอื่นๆ ของรัสเซียมักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์ แต่ก็มีเหตุการณ์หลายครั้งที่ไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมืองที่ชัดเจนเช่นกัน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐฯ ในรัสเซีย ระบุว่า กำลังติดตามรายงานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงที่กำลังวางแผนมุ่งเป้าโจมตีการชุมนุมขนาดใหญ่ในกรุงมอสโก รวมถึงคอนเสิร์ตด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และหลังจากนั้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีตามแนวชายแดนโดยกองกำลังต่อต้านรัสเซียมาตลอด.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี