วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
สื่อญี่ปุ่นย้อนมอง‘ชูวิทย์’จากเจ้าพ่อธุรกิจกลางคืน สู่ฮีโร่นักแฉขวัญใจมหาชนชาวไทย

สื่อญี่ปุ่นย้อนมอง‘ชูวิทย์’จากเจ้าพ่อธุรกิจกลางคืน สู่ฮีโร่นักแฉขวัญใจมหาชนชาวไทย

วันเสาร์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567, 15.47 น.
Tag : ขวัญใจมหาชน เจ้าพ่อธุรกิจกลางคืน ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ชูวิทย์
  •  

ในวันที่เขาหายไป! สื่อญี่ปุ่นย้อนมอง‘ชูวิทย์’จากเจ้าพ่อธุรกิจกลางคืน สู่ฮีโร่นักแฉขวัญใจมหาชนชาวไทย

วันที่ 6 เมษายน 2567 นสพ. Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เผยแพร่รายงานพิเศษ The fast life and slow exit of Thai showman Chuwit ว่าด้วยเรื่องราวของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ (Chuwit Kamolvisit) ชายที่เส้นทางชีวิตหวือหวาเต็มไปด้วยสีสันมากที่สุดคนหนึ่งในสังคมไทย จาก “เจ้าพ่ออ่าง” ผู้บริหารธุรกิจอาบอบนวด กว้างขวางในแวดวง “คนกลางคืน” เคยเข้าสภาในฐานะนักการเมืองระดับชาติ และเป็นขวัญใจมหาชนจากการเป็น “นักแฉ” เปิดโปง “เรื่องเทาๆ” ที่รับรู้และกลายเป็นวิถีปกติชินชาในประเทศไทย ก่อนจะค่อยๆ หายไปจากหน้าสื่อด้วยปัญหาสุขภาพ


ตามคำบอกเล่าของคนใกล้ชิด ชูวิทย์ในวัย 62 ปี เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อช่วงปลายปี 2566 เพื่อไปรักษาโรคมะเร็งตับที่โรงพยาบาลในอังกฤษ ขณะที่เฟซบุ๊กของเจ้าตัวก็ไม่ได้โพสต์อะไรอีกเลย เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านั้นที่จะมีโพสต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และภาพที่คุ้นชินก่อนหน้านั้น คือชูวิทย์มักปรากฎตัวในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว มีไมโครโฟนหลายตัวติดบนเสื้อ และกระดานขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเผนภูมิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ต่อหน้าสายตาผู้สื่อข่าวที่มาดู “โชว์การแฉ” ของชายผู้นี้ 

“ผมเป็นคนดี (แต่) ผมรู้ว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ผมอยู่ในระบบแบบไทยๆ และถ้าคุณอยู่ในระบบนี้นานพอ คุณจะรู้ว่าคอร์รัปชั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา” คำกล่าวตอนหนึ่งที่ชูวิทย์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของ Nikkei Asian Review ที่โรงแรมเดวิส ก่อนที่เขาจะหายไป

ชูวิทย์พลิกอดีตอันมีสีสันของเขาให้กลายเป็นข้อได้เปรียบอย่างชาญฉลาด โดยยอมรับว่าเขาเป็น “คนเทาๆ” ซึ่งเป็นคนที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของชีวิตสาธารณะ ทำให้เขาได้รับการยกย่องในบางด้านในฐานะ “ฮีโร่สายดาร์ค (Anti-Hero)” เขาเล่าอย่างตรงไปตรงมาว่าชีวิตผ่านการติดคุกมาแล้วถึง 3 ครั้ง ทั้งการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกฎหมายเกี่ยวข้องกับข้อตกลงที่ดินที่น่าสงสัย ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และที่ฉาวโฉ่ที่สุดคือข้อหาจ้างอันธพาลทำลายบาร์และธุรกิจอื่นๆ ในใจกลางกรุงเทพฯ

ผู้กว้างขวางในแวดวงธุรกิจกลางคืนผู้นี้ เล่าว่า แรกเริ่มเดิมทีตนไม่ได้คิดจะใช้ชีวิตในเงามืด แต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 (ปี 2523-2532) ตนมีความฝันอยากใช้ชีวิตตามรอย ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ (Hugh Hefner) ชาวอเมริกันผู้ให้กำเนิด “เพลย์บอย (Playboy)” นิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ นั่นคือการมีผุ้หญิงสวยๆ รายล้อม และสร้างรายได้อย่างง่ายดาย และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “วิคตอเรีย ซีเคร็ท” อาบอบนวดหรูที่เปิดให้บริการในปี 2532 ในช่วงที่ธุรกิจนี้ขึ้นถึงจุดสูงสุด มีผู้หญิงที่ทำงานในสังกัดของชูวิทย์มากถึง 2,000 คน และภาพที่หลายคนน่าจะเคยเห็น คือภาพที่ชูวิทย์อยู่ในอ้างอาบน้ำ รายล้อมด้วยพนักงานนวดสาวสวย

“นั่นคือโลกของผมมา 12 ปีแล้ว ผมทำเงินได้มหาศาล" เขากล่าว

เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจอาบอบนวดนั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่การขายบริการทางเพศนั้นผิดกฎหมาย แต่เหตุที่ธุรกิจยังคงดำรงอยู่ได้ก็เพราะมีการ “จ่ายส่วย” ให้กับตำรวจในกรุงเทพฯ กระทั่งในปี 2546 ความสัมพันธ์ระหว่างชูวิทย์กับตำรวจมาถึงขั้นแตกหัก โครงสร้างที่ไม่มั่นคงนั้นจึงพังทลายลง และตั้งแต่นั้นมา ชูวิทย์เริ่มปรากฎตัวในบทบาทใหม่ นั่นคือการออกมาเปิดโปงการรับส่วย ดังที่ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกเล่ากับสื่อว่า เคยนำถาดที่เต็มไปด้วยนาฬิกาโรเล็กซ์ไปให้เจ้าหน้าที่และเสนอบริการฟรีที่ร้านนวดของเขา เพื่อแลกกับเสรีภาพในการประกอบธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย

ในประเทศที่ไม่ค่อยมีการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อกล่าวหาของเขาเป็นเพียงระเบิด ซึ่งดึงดูดความสนใจของสื่อและสาธารณชน และมอบพื้นที่ให้เขาได้พูดมายาวนานถึง 2 ทศวรรษ แต่อีกด้านหนึ่ง ชูวิทย์ก็กลายเป็นเป้าของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิเด็กและสตรี อาทิ ปวีณา หงสกุล (Paveena Hongsakul) นักการเมืองและผู้นำองค์กรภาคประชาสังคม (NGO) ที่ขับเคลื่อนประเด็นความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ยอมรับว่า ไม่รู้ตั้งแต่แรกเรื่องชูวิทย์เป็นเจ้าของร้านนวดบางแห่งที่เฝ้าติดตามเรื่องการจ้างเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ชูวิทย์ยังกลายเป็นพิธีกรรายการข่าวทางโทรทัศน์ โดยใช้ความรู้วงในเกี่ยวกับ “โลกด้านมืดของกรุงเทพฯ” เพื่อรักษาโปรไฟล์สาธารณะของเขา ซึ่งก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงเพราะผู้คนจำนวนมากไม่พอใจกับการเปิดเผยของเขาเกี่ยวกับจุดอ่อนของกรุงเทพฯ ตั้งแต่บ่อนพนันผิดกฎหมายที่เปิดดำเนินการแบบปิดในอาคารสำนักงาน ไปจนถึงอาบอบนวดที่ให้บริการผู้ชายทั้งชาวไทยและต่างชาติ ถึงกระนั้น เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่จำเป็นต้องจ้างคนคุ้มกัน และชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้นจะทำให้ทั้งสื่อไทยและคนไทยปกป้องตน

ความสำเร็จของชูวิทย์ส่วนหนึ่งอยู่ที่ลีลาการพูดของเขา เช่น การบรรยายลูกค้าผู้ชายที่มาใช้บริการอาบอบนวดในฐานะผู้นำชีวิตที่มีความเครียด โดยมีพนักงานนวดหญิงเป็นผู้ผ่อนคลาย ในอีกโอกาสหนึ่ง ก่อนการเลือกตั้งในประเทศไทย เขาบอกกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าการเมืองก็เหมือนกับผ้าอ้อมและต้องการการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเพื่อสิ่งที่ดีกว่า การกลับใจในลักษณะนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อปลายปีที่แล้ว เพจเฟซบุ๊กของชูวิทย์มีผู้ติดตาม 1.9 ล้านคน ซึ่งตกแต่งด้วยภาพของเขามีหนวดบางเฉียบคล้ายดินสอซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา

ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ (Tanwarin Sukkhapisit) อดีตประธานคณะกรรมการกำกับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า ชูวิทย์สร้างตัวตนในที่สาธารณะที่แตกต่างจากที่คนไทยคุ้นเคยนั่นคือโลกแบบขาว-ดำชัดเจน ที่เดิมทีตัวร้ายคือตัวร้ายส่วนพระเอกคือคนดี แต่สำหรับชูวิทย์นั้นผสมปนเปกัน ใช้พื้นที่สาธารณะเป็นเวทีของเขา และแสดงให้เห็นว่า คนเลวก็สามารถทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่ฮีโร่ทั่วๆ ไป แต่เป็นคนเทาๆ

คริส เบเกอร์ (Chris Baker) นักเขียนในกรุงเทพฯ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเมือง ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไทย กล่าวว่า ความสามารถของชูวิทย์ในการสร้างความบันเทิงด้วยการสัมผัสเรื่องต้องห้ามอย่างเปิดเผย ยังทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลหลากสีสันจากนิทานพื้นบ้านของไทยอย่าง “ศรีธนญชัย” ตัวตลกผู้หลงใหลในมุกตลกแบบร้ายๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีทางวัฒนธรรมที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ

รายงานของสื่อญี่ปุ่นยังกล่าวด้วยว่า มีครั้งหนึ่ง ชูวิทย์เคยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มว่า ตอนที่ตนอยู่ในรัฐสภา ถูกถามว่าทำไมผู้คนถึงบอกว่าตนควรถูกเรียกว่าแมงดา ไม่ใช่ สส. ซึ่งตนก็ตอบว่าอย่าเรียกตนว่าแมงดา แต่ให้เรียกว่าแมงดาซุปเปอร์ เพราะหน้าที่ของตนคือทำความสะอาดรัฐสภา เหมือนที่ตนนเคยทำความสะอาดร่างกายในร้านนวด ซึ่งความกล้าหาญดังกล่าวขัดต่อธรรมชาติของคนไทย

“คนไทยไม่ตรงไปตรงมา ไม่พูดความจริง และถึงกับช็อคเมื่อผมพูดมันออกมา แต่พวกเขาก็อยากให้ผมพูดต่อ เพราะอยากให้มีคนพูดในที่สาธารณะเกี่ยวกับการทุจริตหรือกระทำความผิดจนไม่กล้าพูดอย่างเปิดเผย” ชูวิทย์ กล่าว

ความหลงใหลในการเล่าเรื่องของชูวิทย์ที่ทำให้ผู้ชมคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ปรากฏให้เห็นทันทีก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในขณะที่เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของไทยว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมายังประเทศนี้ โดยเขาทิ้งท้ายว่า “วงจรชีวิตก็เป็นเช่นนั้น หลังจากที่เราเกิด เราก็ป่วยและตาย” ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นข้อความสุดท้ายของชูวิทย์ถึงประเทศไทยหรือไม่ เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้!!!
ขอบคุณเรื่องจาก
https://asia.nikkei.com/Life-Arts/Life/The-fast-life-and-slow-exit-of-Thai-showman-Chuwit

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พัฒนาวงการ! 'มาดามแป้ง'คว้ารางวัลใหญ่FIFA

พร้อมทุกด้าน!'บิ๊กแนต'ลั่นจัดซีเกมส์โปร่งใส-ไร้ปัญหา

เปิดประชุมสภาเลื่อน‘กาสิโน’ไร้กำหนด ดัน‘นิรโทษกรรม’เสียบแทน

บุกจับโอเกะเถื่อนภูซาง! นำเด็กหญิง 14 ค้ากาม เจ้าของร้านมีประวัติพัวพันยา-อาวุธปืน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved