นายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างพบปะประชาชน อยู่ระหว่างเข้ารับการผ่าตัด อาการเป็นตายเท่ากัน ส่วนมือปืนถูกรวบตัวได้ในที่เกิดเหตุ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนายกรัฐมนตรีฟิโกเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เมืองฮันด์โลวา ทางตอนกลางของประเทศ จากนั้นลงมาพบปะประชาชนที่รออยู่ด้านอาคารที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่น ก่อนที่จะถูกมือปืนที่ปะปนในหมู่ประชาชนชักอาวุธปืนออกมาลั่นไกใส่ 5 นัด กระสุนพุ่งเจาะร่างฟิโก 3 นัดที่ท้อง แขน และขา จนล้มลง ทีมรักษาความปลอดภัยรีบกรูกันเข้าไปจับตัวมือปืนทันที ขณะที่อีกส่วนรีบนำร่างฟิโกขึ้นรถนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น ก่อนที่นายกรัฐมนตรีสโลวาเกียจะถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งโรงพยาบาลในเมือง แบงก์สกา บิสตริกา เมืองใหญ่สุดในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากอาการหนักเกินกว่าจะส่งตัวไปผ่าตัดยังโรงพยาบาลในกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นเมืองหลวง

รัฐมนตรีกลาโหมสโลวาเกียแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ฟิโกเข้ารับการผ่าตัดนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง อาการล่าสุดยังสาหัสเป็นตายเท่ากัน ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยสโลวาเกีย บอกว่ามือปืนที่ก่อเหตุเป็นชายวัย 71 ปี เป็นนักเขียนและนักวิจารณ์การเมืองอิสระ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมีมูลเหตุมาจากเรื่องการเมือง พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีมหาดไไทยสโลวาเกีย ยังกล่าวโทษการแพร่ข้อมูลข่าวเท็จผ่านสื่อออนไลน์ ว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรีฟิโกครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตย รวมถึงกล่าวโทษสื่อมวลชน ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งต่อกระแสข่าวความเกลียดชังไปยังผู้คนวงกว้าง

ส่วนบรรดาผู้นำโลกร่วมประณามเหตุลอบสังหารนายกรัฐมนตรีฟีโก ด้วยการโพสต์ข้อความให้กำลังใจและสนับสนุนเผยแพร่ผ่าน X หรือทวิตเตอร์เดิม เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กล่าวว่า ตกใจกับเรื่องนี้ ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และกล่าวว่า การใช้ความรุนแรงไม่ควรเป็นเรื่องปกติในประเทศใด เช่นเดียวกับ มาร์ค รูตต์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ อวยพรให้ฟีโกแข็งแรงโดยเร็ว ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมกับพันธมิตรในสหภาพยุโรปของสโลวาเกีย ก็แสดงความตกใจและประณามการลอบสังหารดังกล่าว

ทั้งนี้ สโลวาเกีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกนาโตและสหภาพยุโรป แทบจะไม่เคยมีประวัติความรุนแรงทางการเมือง ขณะที่ฟิโก วัย 59 ปี เพิ่งได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสโลวาเกียอีกสมัย หลังจากชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายปีที่แล้ว และกำลังเป็นผู้นำรัฐบาลผสมแนวประชานิยมและชาตินิยมอยู่ในขณะนี้