บรัสเซลส์/ปารีส/เบอร์ลิน/โรม (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - การเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรป เสร็จสิ้นลงไปแล้ว เอ็กซิตโพลชี้ พรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดทำผลงานได้ดีในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสมาชิกสำคัญอย่างฝรั่งเศส ที่ทำให้ประธานาธิบดีตัดสินใจจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด

การเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรป เพื่อหาสมาชิก 720 คน จัดขึ้นในสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ เริ่มต้นมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผลสำรวจหน้าคูหา หรือเอ็กซิตโพล ชี้ว่า พรรคการเมืองแนวขาวจัด ในหลายประเทศชนะการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น จากที่ใช้แนวทางหาเสียงต่อต้านผู้อพยพ และการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน สะท้อนความนิยมและในหลายประเทศ ทำให้พรรครัฐบาลสูญเสียที่นั่งไป

เช่นในฝรั่งเศส พรรคของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง พลาดท่าให้กับพรรคเนชันแนล แรลลี พรรคการเมืองฝ่ายขวาของ มารีน เลอ เปน ทำให้เขาตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดที่เขาจะครบวาระถึง 3 ปี ในวันที่30 มิถุนายน และ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับชาวฝรั่งเศสอย่างมาก มาครงระบุว่า ผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอียู ถือเป็นหายนะสำหรับรัฐบาลของเขา และเป็นผลเลือกตั้งที่เขาไม่สามารถมองข้ามไปได้ การตัดสินใจยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นและเชื่อใจ เขาเชื่อมั่นในศักยภาพของชาวฝรั่งเศสที่จะสร้างทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองและเพื่อคนรุ่นอนาคต ถือเป็นการเดิมพันทางการเมืองที่สูงของมาครง เพราะเป็นการประกาศเลือกตั้งก่อนกำหนดภายในเวลาไม่ถึง2 เดือน ก่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิกจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงปารีส ซึ่งหากพรรคของนางเลอ เปน ชนะเลือกตั้งได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศส จะส่งผลให้มาครงเป็นผู้นำที่เกือบไม่มีอำนาจเหลืออยู่ในมือเลย อีกทั้งยังอาจส่งให้นางเลอ เปน จะกลายเป็นตัวเต็งที่จะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี 2570

ทั้งนี้ ผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพลชี้ว่า พรรคการเมืองสายกลางขวา สายกลางซ้าย สายเสรีนิยม และสายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือพรรคกรีนจะยังสามารถครองเสียงข้างมาก 460 ที่นั่งจากทั้งหมด 720 ที่นั่ง แต่ลดลงจากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ได้รวมกัน 488 ที่นั่งจากทั้งหมด 705 ที่นั่ง โดยเฉพาะพรรคกรีนที่จะลดลงจาก 71 ที่นั่ง เหลือ 53ที่นั่ง ขณะที่อีซีอาร์ (ECR) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคการเมืองชาตินิยมที่ไม่สนับสนุนยุโรปและพรรคการเมืองขวาจัดได้ที่นั่งรวมกัน 146 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 19 ที่นั่ง ส่วนสมาชิกสภาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้ 95 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 33 ที่นั่ง

ด้าน อัวร์ซูลา ฟอน เดอ ไลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายบริหารของสหภาพยุโปร ยังแถลงแสดงความเชื่อมั่นว่า เธอจะยังสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในหมู่พรรคสายกลาง เสรีนิยม และสังคมนิยม จนได้ครองตำแหน่งต่ออีกสมัย